ค้นหา
ค้นหา

ฟิลเลอร์ Neuramis 5,990.-/cc แอดไลน์เลย!

ใต้ตาคล้ำ แก้ยังไง

ใต้ตาคล้ำ ไม่สดใส ฉีดแค่ Juvelook เอาอยู่ไหม

“ใต้ตาคล้ำ” ปัญหาที่ใครหลายคนต้องเจอ โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปแล้วรู้สึกหน้าดูโทรมเหมือนไม่ได้นอน แต่งหน้าเบาหน่อยก็กลบไม่อยู่ แถมต้องพึ่งแอปฯ ลบใต้ตาแพนด้าอยู่ตลอด บางคนถึงขั้นขาดความมั่นใจ ไม่อยากออกกล้องเลยทีเดียว
แล้วแบบนี้ การฉีด Juvelook ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่คนรักงานผิว คนอยากมีผิวใต้ตากระจ่างใส อิ่มฟู จะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำให้กลับมาดูสดใสขึ้นได้จริงไหม?

เริ่มจากเช็คปัญหา "ใต้ตาคล้ำ" กันก่อน

ใต้ตาคล้ำ
ใต้ตาคล้ำ มักมีลักษณะเป็นเงาดำหรือสีคล้ำที่ชัดเจนบริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า ขาดชีวิตชีวา แม้ในวันที่นอนเต็มอิ่มและไม่ได้เหนื่อยจริง ๆ ก็ตาม ลักษณะของใต้ตาคล้ำมักจะเห็นเป็นวงคล้ำชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อโดนแสงบางมุม หรืออยู่ในที่ที่มีแสงจ้าตรงหัวพอดี

ใต้ตาคล้ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง

ใต้ตาคล้ำ เกิดจากอะไร
สาเหตุของปัญหาใต้ตาคล้ำ มีได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
  • พันธุกรรม (เป็นมาแต่กำเนิด)
  • นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ภูมิแพ้เรื้อรัง ทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัว
  • ผิวใต้ตาบาง ทำให้เห็นเส้นเลือดได้ชัด
  • มีการสะสมของเม็ดสีใต้ตา
  • การไหลเวียนของเลือดไม่ดี
  • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้คอลลาเจนลดลง ผิวดูหมองคล้ำ

ฉีด Juvelook ช่วยแก้ใต้ตาคล้ำได้อย่างไร

ส่วนประกอบสำคัญและการทำงานของ Juvelook

Juvelook เป็นหัตถการประเภท Collagen Booster ที่มีจุดเด่นในเรื่องการปรับผิวใต้ตาให้กระจ่างใส และเก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ที่อยู่รอบดวงตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยประกอบด้วย 2 ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่
  • Poly D,L Lactic Acid (PDLLA) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
  • Hyaluronic Acid (HA) ที่มีคุณสมบัติเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณผิวทันที
หลักการทำงานของ Juvelook จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอนหลัก ๆ โดยเริ่มจาก
Juvelook ช่วยแก้ใต้ตาคล้ำได้อย่างไร
  • Step 1 HA เข้าไปเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ให้ดูเรียบเนียนขึ้นทันทีว
  • Step 2 จากนั้น PDLLA เริ่มกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3–4 สัปดาห์
  • Step 3 เมื่อคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวบริเวณใต้ตาจะดูแน่น อิ่มฟู กระจ่างใส ดูสดใสแบบธรรมชาติ

หลังฉีด Juvelook ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังฉีด Juvelook ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังฉีด และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วง 3–4 สัปดาห์ ใต้ตาจะดูแน่น กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยในการฉีดแต่ละครั้งจะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 12 สัปดาห์
แพทย์จะแนะนำให้ฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง 3 ครั้ง ห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้คงสภาพงานผิวใต้ตาที่อิ่มฟูไปได้นานสุดถึง 1 ปีครึ่ง หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนมาฉีดห่างกันทุก ๆ 6 เดือนได้

ตัวอย่างเคสฉีด Juvelook แก้ใต้ตาคล้ำ เมกะคลินิก

ก่อน - หลัง ฉีด Juvelook ใต้ตา
ก่อน - หลัง ฉีด Juvelook ใต้ตา

ปัญหาอื่น ๆ บริเวณใต้ตา ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม

นอกจากความคล้ำใต้ตาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุ นั่นคือ ปัญหาใต้ตาลึก ยุบ ดูโหล ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
  • การสูญเสียคอลลาเจนและไขมันใต้ตา
  • กระดูกเบ้าตาที่ทรุดตัวตามวัย
  • พฤติกรรมพักผ่อนน้อย
  • การใช้สายตาหนักเกินไปในชีวิตประจำวัน
เมื่อใต้ตาลึกลง จะเกิดเงาที่ทำให้ใบหน้าดูเหมือนมีร่องใต้ตาชัดเจน ใบหน้าโดยรวมจึงดูโทรม แม้ว่าสภาพผิวบริเวณอื่นจะยังดีอยู่ก็ตาม
ใต้ตาลึก ยุบ ดูโหล

แล้วถ้าใต้ตาลึก ยุบ ดูโหล ฉีด Juvelook เอาอยู่ไหม

สำหรับปัญหาใต้ตาลึก ยุบ หรือดูโหล Juvelook อาจยังไม่ตอบโจทย์เต็มที่ เพราะแม้ว่า Collagen Booster ตัวนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น แต่หากปริมาณเนื้อผิวที่ขาดหายไปมาก การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มวอลลุ่มให้กลับมาอิ่มฟูได้ดีกว่า
โดย Hyaluronic Acid (HA) ที่มีอยู่ในเนื้อฟิลเลอร์นั้นจะช่วย
  • เติมเต็มผิวใต้ตาให้ดูเนียนสม่ำเสมอ
  • ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า
  • เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด
ในเคสที่มีทั้งปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก การเลือกฉีดควบคู่ทั้ง Juvelook และฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยแก้ได้ทั้งสีผิวและโครงสร้างผิว ทำให้ใบหน้าดูสดใสครบมิติยิ่งขึ้น

ตัวอย่างเคสฉีด Juvelook และฟิลเลอร์ใต้ตา

ก่อน - หลัง ฉีด Juvelook ใต้ตา และ Under-eye filler
ก่อน - หลัง ฉีด Juvelook ใต้ตา และ Under-eye filler

สรุป

“ใต้ตาคล้ำ ไม่สดใส ฉีดแค่ Juvelook เอาอยู่ไหม?” คำตอบคือ “อยู่” ในบางกรณี โดยเฉพาะในเคสที่ใต้ตาคล้ำจากปัญหาผิว ไม่ได้ยุบลึกมาก Juvelook จะช่วยให้ผิวใต้ตาดูกระจ่างใส ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง และผิวแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ถ้ามีปัญหาใต้ตาลึก ยุบ หรือดูโทรมร่วมด้วย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะตอบโจทย์เรื่องโครงสร้างได้มากกว่า และถ้าอยากให้ผลลัพธ์ดูสมบูรณ์ Juvelook กับฟิลเลอร์สามารถใช้ฉีดร่วมกันได้ เพื่อเสริมกันทั้งเรื่องสภาพผิวและรูปหน้า

สนใจฉีด Juvelook และฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เมกะคลินิก

Juvelook ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาและโปรโมชั่นฉีดคู่กัน

ราคาและโปรโมชั่นฉีดคู่กัน Juvelook และ ฟิลเลอร์ใต้ตา
*ทุกโปรโมชั่น หมด 31 ธ.ค. 68 แคปสอบถามรับสิทธิ์ได้เลย คลิก!

ปรึกษาฟรี ที่สาขาใกล้บ้าน เดินทางสะดวก

ที่ MEGA CLINIC เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ประสบการณ์สูง ใช้ยาแท้ ตรวจสอบได้ทุกเคส มีมาตรฐาน และทุกหัตถการทำโดยแพทย์เท่านั้น พร้อมผู้ช่วยแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีนัดติดตามผลหลังทำการฉีดฟิลเลอร์ และถ้าหากมีคำถามหรือข้อกังวลใด ๆ ก็สามารถทักสอบถามผ่านทุกช่องทางติดต่อของคลินิกได้ตลอดเวลา
ปรึกษาแพทย์ที่เมกะคลินิก
เมกะคลินิกมี 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
คลินิกเดินทางสะดวก หาเจอง่าย ที่นี่เราให้บริการด้านความงามครบวงจร ทั้งฟิลเลอร์ โบท็อก บำรุงผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ลดอายุชะลอวัย ไปจนถึงโปรแกรมลดน้ำหนักสัดส่วน นอกจากนี้ยังมีบริการให้ ปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถทักสอบถามเจ้าหน้าที่แอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดหัตถการ และสำรองคิวล่วงหน้า ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) โดยคลิกที่ปุ่มแอดไลน์สีเขียวด้านล่างหน้าจอได้เช่นกัน
แหล่งที่มาข้อมูลเพิ่มเติม: Dark Circles Under Eyes จาก clevelandclinic.org