“ใต้ตาคล้ำ” ปัญหาที่ใครหลายคนต้องเจอ โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปแล้วรู้สึกหน้าดูโทรมเหมือนไม่ได้นอน แต่งหน้าเบาหน่อยก็กลบไม่อยู่ แถมต้องพึ่งแอปฯ ลบใต้ตาแพนด้าอยู่ตลอด บางคนถึงขั้นขาดความมั่นใจ ไม่อยากออกกล้องเลยทีเดียว
แล้วแบบนี้ การฉีด Juvelook ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่คนรักงานผิว คนอยากมีผิวใต้ตากระจ่างใส อิ่มฟู จะช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำให้กลับมาดูสดใสขึ้นได้จริงไหม?
เริ่มจากเช็คปัญหา "ใต้ตาคล้ำ" กันก่อน
ใต้ตาคล้ำ มักมีลักษณะเป็นเงาดำหรือสีคล้ำที่ชัดเจนบริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า ขาดชีวิตชีวา แม้ในวันที่นอนเต็มอิ่มและไม่ได้เหนื่อยจริง ๆ ก็ตาม ลักษณะของใต้ตาคล้ำมักจะเห็นเป็นวงคล้ำชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อโดนแสงบางมุม หรืออยู่ในที่ที่มีแสงจ้าตรงหัวพอดี
ใต้ตาคล้ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง
สาเหตุของปัญหาใต้ตาคล้ำ มีได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
- พันธุกรรม (เป็นมาแต่กำเนิด)
- นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ภูมิแพ้เรื้อรัง ทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัว
- ผิวใต้ตาบาง ทำให้เห็นเส้นเลือดได้ชัด
- มีการสะสมของเม็ดสีใต้ตา
- การไหลเวียนของเลือดไม่ดี
- อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้คอลลาเจนลดลง ผิวดูหมองคล้ำ
ฉีด Juvelook ช่วยแก้ใต้ตาคล้ำได้อย่างไร
ส่วนประกอบสำคัญและการทำงานของ Juvelook
Juvelook เป็นหัตถการประเภท Collagen Booster ที่มีจุดเด่นในเรื่องการปรับผิวใต้ตาให้กระจ่างใส และเก็บริ้วรอยเล็ก ๆ ที่อยู่รอบดวงตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยประกอบด้วย 2 ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่
- Poly D,L Lactic Acid (PDLLA) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
- Hyaluronic Acid (HA) ที่มีคุณสมบัติเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณผิวทันที
- Step 1 HA เข้าไปเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ให้ดูเรียบเนียนขึ้นทันทีว
- Step 2 จากนั้น PDLLA เริ่มกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3–4 สัปดาห์
- Step 3 เมื่อคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ผิวบริเวณใต้ตาจะดูแน่น อิ่มฟู กระจ่างใส ดูสดใสแบบธรรมชาติ
หลังฉีด Juvelook ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน
หลังฉีด Juvelook ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังฉีด และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วง 3–4 สัปดาห์ ใต้ตาจะดูแน่น กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยในการฉีดแต่ละครั้งจะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 12 สัปดาห์
แพทย์จะแนะนำให้ฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง 3 ครั้ง ห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้คงสภาพงานผิวใต้ตาที่อิ่มฟูไปได้นานสุดถึง 1 ปีครึ่ง หลังจากนั้นสามารถเปลี่ยนมาฉีดห่างกันทุก ๆ 6 เดือนได้
ตัวอย่างเคสฉีด Juvelook แก้ใต้ตาคล้ำ เมกะคลินิก
ปัญหาอื่น ๆ บริเวณใต้ตา ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม
นอกจากความคล้ำใต้ตาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุ นั่นคือ ปัญหาใต้ตาลึก ยุบ ดูโหล ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การสูญเสียคอลลาเจนและไขมันใต้ตา
- กระดูกเบ้าตาที่ทรุดตัวตามวัย
- พฤติกรรมพักผ่อนน้อย
- การใช้สายตาหนักเกินไปในชีวิตประจำวัน
เมื่อใต้ตาลึกลง จะเกิดเงาที่ทำให้ใบหน้าดูเหมือนมีร่องใต้ตาชัดเจน ใบหน้าโดยรวมจึงดูโทรม แม้ว่าสภาพผิวบริเวณอื่นจะยังดีอยู่ก็ตาม
แล้วถ้าใต้ตาลึก ยุบ ดูโหล ฉีด Juvelook เอาอยู่ไหม
สำหรับปัญหาใต้ตาลึก ยุบ หรือดูโหล Juvelook อาจยังไม่ตอบโจทย์เต็มที่ เพราะแม้ว่า Collagen Booster ตัวนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวแน่นขึ้น แต่หากปริมาณเนื้อผิวที่ขาดหายไปมาก การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มวอลลุ่มให้กลับมาอิ่มฟูได้ดีกว่า
โดย Hyaluronic Acid (HA) ที่มีอยู่ในเนื้อฟิลเลอร์นั้นจะช่วย
- เติมเต็มผิวใต้ตาให้ดูเนียนสม่ำเสมอ
- ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า
- เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด
ในเคสที่มีทั้งปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก การเลือกฉีดควบคู่ทั้ง Juvelook และฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยแก้ได้ทั้งสีผิวและโครงสร้างผิว ทำให้ใบหน้าดูสดใสครบมิติยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเคสฉีด Juvelook และฟิลเลอร์ใต้ตา
สรุป
“ใต้ตาคล้ำ ไม่สดใส ฉีดแค่ Juvelook เอาอยู่ไหม?” คำตอบคือ “อยู่” ในบางกรณี โดยเฉพาะในเคสที่ใต้ตาคล้ำจากปัญหาผิว ไม่ได้ยุบลึกมาก Juvelook จะช่วยให้ผิวใต้ตาดูกระจ่างใส ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง และผิวแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ถ้ามีปัญหาใต้ตาลึก ยุบ หรือดูโทรมร่วมด้วย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะตอบโจทย์เรื่องโครงสร้างได้มากกว่า และถ้าอยากให้ผลลัพธ์ดูสมบูรณ์ Juvelook กับฟิลเลอร์สามารถใช้ฉีดร่วมกันได้ เพื่อเสริมกันทั้งเรื่องสภาพผิวและรูปหน้า
สนใจฉีด Juvelook และฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เมกะคลินิก
Juvelook ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาและโปรโมชั่นฉีดคู่กัน
*ทุกโปรโมชั่น หมด 31 ธ.ค. 68 แคปสอบถามรับสิทธิ์ได้เลย คลิก!
ปรึกษาฟรี ที่สาขาใกล้บ้าน เดินทางสะดวก
ที่ MEGA CLINIC เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ประสบการณ์สูง ใช้ยาแท้ ตรวจสอบได้ทุกเคส มีมาตรฐาน และทุกหัตถการทำโดยแพทย์เท่านั้น พร้อมผู้ช่วยแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีนัดติดตามผลหลังทำการฉีดฟิลเลอร์ และถ้าหากมีคำถามหรือข้อกังวลใด ๆ ก็สามารถทักสอบถามผ่านทุกช่องทางติดต่อของคลินิกได้ตลอดเวลา
เมกะคลินิกมี 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
- เมกะคลินิก คลินิกความงาม สยามสแควร์
BTS สยาม ตั้งอยู่ตรงลานโล่งข้างร้านอาหารอินเตอร์ จอดรถหน้าคลินิกได้ - เมกะคลินิก คลินิกความงาม นนทบุรี
MRT ตลาดบางใหญ่ อยู่ในห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต ชั้น 2 โซนเซ็นทรัล - เมกะคลินิก คลินิกความงาม ลาดพร้าว
BTS ห้าแยกลาดพร้าว/MRT พหลโยธิน อยู่ในห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 9 ใช้ลิฟต์ประตู C - เมกะคลินิก คลินิกความงาม รังสิต ปทุมธานี
อยู่ในห้างฟิวเจอร์รังสิต ชั้น G ในโรบินสัน ข้างร้าน Watsons - เมกะคลินิก คลินิกความงาม ปากน้ำ ศรีนครินทร์
BTS ศรีนครินทร์ ติดบันไดทางออก 4 จอดรถหน้าคลินิกได้
คลินิกเดินทางสะดวก หาเจอง่าย ที่นี่เราให้บริการด้านความงามครบวงจร ทั้งฟิลเลอร์ โบท็อก บำรุงผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ลดอายุชะลอวัย ไปจนถึงโปรแกรมลดน้ำหนักสัดส่วน นอกจากนี้ยังมีบริการให้ ปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถทักสอบถามเจ้าหน้าที่แอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดหัตถการ และสำรองคิวล่วงหน้า ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) โดยคลิกที่ปุ่มแอดไลน์สีเขียวด้านล่างหน้าจอได้เช่นกัน
แหล่งที่มาข้อมูลเพิ่มเติม:
Dark Circles Under Eyes จาก clevelandclinic.org