สองนวัตกรรมยกกระชับหน้าที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ หากมีใครกำลังต้องการดูแลผิวหย่อนคล้อย ปรับหน้า เด็กให้ดูอ่อนเยาว์ โดยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว นั่นก็คือ Ultraformer III (อัลตร้า ฟอร์มเมอร์ ทรี) และ Thermage (เทอร์มาจ)ซึ่งทั้งสองหัตถการเป็นเครื่องยิงพลังงานเหมือนกัน ช่วยเรื่องยกกระชับ เรื่องหน้าเด็ก เหมือนกัน แต่มี อะไรที่แตกต่างกันบ้าง แล้วปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบไหนควรทำอะไร บทความนี้หมอได้รวบรวมข้อมูล มาให้พวกเรานำเอาไปใช้ประกอบการตัดสินใจกันแล้วค่ะ คลื่นพลังงานที่ใช้ Ultraformer III ใช้คลื่นพลังงาน Focus Ultrasound ประเภทเดียวกับที่ใช้ในการตรวจครรภ์ แต่มีการ พัฒนาเทคโนโลยีการปล่อยพลังงานที่เรียกกว่า Micro and Macro Focused Ultrasound หรือ MMFU ส่งผลให้คลื่นมีความถี่และความเข้มข้นสูง สามารถปล่อยพลังงานความร้อนอุณหภูมิประมาณ 65-70°C เป็นจุดเล็ก ๆ กระจายเข้าถึงใต้ผิวหนังชั้นลึก SMAS ชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่ง ความร้อนคือตัวการทำให้ชั้นผิวเดิมที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัวและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ใหม่ขึ้นมาทดแทนส่วนที่เสื่อมสภาพไป Thermage

ถ้ามีใครที่กำลังตั้งคำถามว่า ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี? คำตอบหนึ่งในนั้นคงจะหนีไม่พ้นฟิลเลอร์จาก ประเทศเกาหลีที่เป็นที่รู้จัก รวมถึงได้รับความนิยมใช้ฉีดกันเป็นวงกว้าง นั่นก็คือ ฟิลเลอร์ Neuramis (นิวรามิส)แล้วฟิลเลอร์เกาหลียี่ห้อนี้มันดีอย่างไร? ทำไมทั้งแพทย์และผู้ใช้บริการถึงเลือกให้เป็นฟิลเลอร์ตัวแรก ๆ ในการใช้ฉีดเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาร่องลึก ร่องยุบ ปรับหน้าเด็ก แก้หน้าโทรม และเพิ่มความมีน้ำมีนวลให้ ใบหน้า บทความนี้หมอจึงรวบรวม 6 เหตุผลที่ทำให้คนเลือกฉีดฟิลเลอร์ Neuramis มากที่สุด มาให้เราได้ ลองอ่านก่อนที่จะตัดสินใจทำหัตถการนี้กันค่ะ ฟิลเลอร์เกาหลี Neuramis ข้อดี 1) ฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงชัด ด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพของเนื้อฟิลเลอร์ที่เทียบเคียงได้กับยี่ห้อชั้นนำจากยุโรปและอเมริกา สาร เติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid ในฟิลเลอร์ Neuramis สามารถสร้างผลลัพธ์การปรับรูปหน้าที่ชัดเจน เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังเติม อีกทั้งมีความปลอดภัยสูง ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 2) ราคาคุ้มค่า คุณภาพดี เพราะงบทำสวยเป็นเรื่องสำคัญของใครหลายคน ฟิลเลอร์เกาหลีตัวนี้จึงมีราคาที่ค่อนข้างเข้าถึงง่ายกว่า ตัวเลือกอื่น ๆ โดยที่ไม่ได้ลดทอนคุณภาพและมาตรฐานลงไป ฟิลเลอร์

ฉีดแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน? จริงอยู่ที่ว่าหลังฉีดแฟตไปได้สักพัก จนตัวยาออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ไขมันสะสม จำนวนหนึ่งจะถูกสลายออกไปแบบถาวรไม่กลับมาอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเราดูแลตัวเองไม่ดีพอ เช่น ไม่ค่อยออกกำลังกาย แถมยังชอบกินอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และไขมันอยู่เยอะจนเป็นนิสัยเคยตัว ไขมัน ใหม่ก็มีโอกาสเข้ามาสะสมได้เช่นกันนั่นแปลว่าผลลัพธ์หลังฉีดแฟตอาจปลิวหายหรือสูญเปล่าไปเลย ซึ่งไม่ใช่ความบกพร่องไม่เห็นผลของ ตัวยา แต่กลับเป็นเพราะพฤติกรรมการคุมไขมันสะสมของเราเอง แจกวิธี ฉีดแฟตยังไง ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ฉีดแฟต ควรฉีดบ่อยแค่ไหน ปกติแล้วการฉีดแฟตนั้นเป็นหัตถการสำหรับคนที่อยากฉีดหน้าเรียว มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดตาม ร่างกายที่กำจัดออกเองได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น แก้ม เหนียง ต้นแขนต้นขาใหญ่ หน้าท้องเผละ รักแร้ปลิ้น เป็นต้นการฉีดแฟตแต่ละครั้ง ถ้าเป็นตัวยาแฟตสูตร Lipo-S ของเมกะคลินิก สามารถออกฤทธิ์สลายไขมันสะสม ไปได้ในปริมาณ 10-20% ของไขมันเดิมที่มี แพทย์จึงมักแนะนำคอร์สฉีดแฟตที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลไป แบบเคสต่อเคส โดยคำนวณจากการประเมินรูปหน้าอย่างละเอียดก่อนในวันที่เข้ามาปรึกษาในหนึ่งครั้งของการเข้ามาฉีดแฟต แพทย์จะฉีดตัวยาแฟตเข้มข้นไม่ผสมน้ำเกลือให้ 4-8 เข็ม สำหรับ บริเวณใบหน้า และ 8-18