มีปัญหาผิวหลายรูปแบบที่สร้างความรำคาญใจให้กับพวกเราโดยเฉพาะกับสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่ชอบแต่งหน้าอยู่เป็นประจำ หนึ่งในนั้นคือสภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาแต่งหน้าไม่ติด เกิดริ้วรอยร่องตื้นง่ายทำให้ผิวหน้าดูเหี่ยวกว่าวัย
วงการแพทย์ผิวหนังจึงต้องพัฒนาทั้งหัตถการและสกินแคร์ที่เน้นช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า โดยแต่ละอย่างก็มีคุณลักษณะและคุณสมบัติในการบำรุงผิวที่แตกต่างกัน
แต่ถ้าพูดถึงการปรับสมดุลสภาพผิวหน้าอย่างล้ำลึก ก็ต้องยกให้การทำหัตถการที่เป็นการฉีดวิตามินอาหารผิวเข้าชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) อยู่เหนือกว่าสกินแคร์ที่เป็นเพียงการทาลงบนผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ซึ่งเป็นผิวชั้นนอกสุด
และในบทความนี้หมอจะเล่าถึงหัตถการ “ฉีดหน้าใส” ที่ทีมแพทย์เมกะคลินิกได้คิดค้นสูตรเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย เสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวในระยะยาว กับราคาคอร์สที่เมื่อลองหารเป็นราคาต่อเข็มออกมาแล้วอาจดูคุ้มค่ากว่าซื้อสกินแคร์หลักพันหลักหมื่นบาทอีกด้วยค่ะ
หลายคนน่าจะพอได้ยินที่มาต่าง ๆ ของการมีสภาพผิวเหี่ยว หน้าแห้งขาดความชุ่มชื้น กันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดและการทำงานของต่อมไขมันในชั้นผิว การดื่มน้ำน้อย อายุที่มากขึ้น คอลลาเจนในผิวลดลง ฮอร์โมน หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ก็ล้วนมีผล
การฉีดมาเด้คอลลาเจน ก็เป็นหัตถการที่เราพอคุ้นหูในเรื่องของการช่วยเติมเต็มคอลลาเจนและความชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวหน้าแห้ง ซึ่งถ้าถามว่าฉีดหน้าใสเหมือนมาเด้คอลลาเจนไหม คำตอบของหมอคือ เหมือน แต่ไม่ทั้งหมดค่ะ
ฉีดหน้าใส คือตัวยาสูตรเฉพาะที่ทีมแพทย์พัฒนาให้มีคุณสมบัติผสมรวมกันระหว่างเมโสหน้าใส
กับมาเด้คอลลาเจน
ทำให้ในการฉีดหน้าใส 1 ครั้ง เราจะได้ทั้งการบำรุงฟื้นฟูโครงสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง ปรับสมดุล
น้ำและน้ำมันใต้ผิว ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาผิวหลายอย่าง เช่น สิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ หน้ามัน หน้าแห้ง รูขุมขนกว้าง เป็นต้น ไปจนถึงการเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้าดูชุ่มชื้นสุขภาพดี
สำหรับหัตถการดูแลผิวหน้าตัวนี้ แต่ละครั้งแพทย์จะฉีดให้ที่ 2 เข็ม ปริมาณตัวยาเข็มละ 1 cc ฉีดประมาณ 16 จุดทั่วหน้า โดยเน้นบริเวณใหญ่ ๆ อย่างหน้าผาก แก้ม และที่คาง
ทั้งนี้ระยะเวลาในการเห็นผลและความคงทนของผลลัพธ์หลังฉีดหน้าใสจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้ชีวิตและสภาพโครงสร้างผิวเดิมของแต่ละคนเป็นหลัก หมอแนะนำให้ฉีดซ้ำทุกสัปดาห์ในช่วงเดือนแรก หลังจากนั้นสามารถเว้นระยะที่ 2 สัปดาห์ได้ค่ะ
ในตัวยาฉีดหน้าใสนั้นปราศจากส่วนประกอบที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อีกทั้งยังออกฤทธิ์ช่วยฟื้นฟูดูแล
ผิวทุกประเภท ใครที่สุขภาพผิวหน้าค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้ว การฉีดหน้าใสก็จะช่วยคงสภาพโครงสร้าง
ผิวที่ดีไว้ได้นานยิ่งขึ้น
ส่วนใครที่มีปัญหาผิวมัน ผิวแห้งเป็นขุย แต่งหน้าไม่ติด ซึ่งเกิดจากปัญหาความสมดุลของน้ำในผิวและ
การทำงานของต่อมไขมันใต้ชั้นผิว หลังฉีดหน้าใสอย่างต่อเนื่องก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิว
ที่ชัดเจน
เมื่อเซลล์ผิวได้รับวิตามินอาหารผิวจากการฉีดหน้าใสอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ เลยก็คือปัญหาเกี่ยวกับสภาพผิวที่เรามักเป็นบ่อยค่อย ๆ ลดลง ได้แก่
ปัจจุบันยังไม่มีหัตถการตัวไหนที่สามารถจัดการกับทุกปัญหาผิวหน้าได้แบบครอบจักรวาล ฉีดหน้าใสก็
เช่นกัน ดังนั้นถ้าใครกำลังกังวลปัญหาต่อไปนี้อยู่ด้วย ให้ลองศึกษาหัตถการงานผิวประเภทอื่นไว้คร่าว ๆ เผื่อไว้ตัดสินใจทำร่วมกับการฉีดหน้าใส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สภาพผิวที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
นอกจากการฉีดแล้ว หัตถการประเภทเครื่องยิงพลังงานยกกระชับที่ช่วยกระตุ้นการสร้างและจัดเรียง
เส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวก็มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพผิวให้ดีขึ้นในทางอ้อม เหมาะมากกับคนที่มีความ
กังวลผิวหย่อนคล้อยร่วมด้วย
เนื่องจากแพทย์ต้องทำการฉีดกระจายตัวยาเข้าสู่ผิวชั้นตื้นทั่วใบหน้า ทำให้หลังฉีดเสร็จทันทีจะมีตุ่มนูน
ตัวยาคล้ายตุ่มยุงกัดที่สามารถหายไปได้เองภายใน 3-6 ชั่วโมง
รวมถึงรอยช้ำเข็มที่อาจเกิดขึ้นได้บ้างก็จะค่อย ๆ จางลงใน 7-14 วัน สำหรับบางคนที่ผิวเป็นรอยช้ำง่าย ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หนักในช่วง 1-3 วัน ก่อนและหลังฉีด ระหว่างนั้นสามารถทานยาลดอาการ
ช้ำและใช้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ทาปกปิดไว้ก่อนได้