Search
Search

ฟิลเลอร์ Neuramis 5,990.-/cc แอดไลน์เลย!

ประกาศความเป็นส่วนตัวข้อมูลสำหรับลูกค้า

(Privacy Notice – CUSTOMERS)

บริษัท เมกะคลินิค จำกัด

บริษัท เมกะคลินิค จำกัด (บริษัทฯ) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงจัดให้มีการกำกับดูแลการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้เจ้าของข้อมูล (“ท่าน”) ทราบเพื่อเป็นการปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ผ่านการเข้าใช้บริการ ในพื้นที่ของบริษัท ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อ 1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  • เพื่อการเสนอให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริการ/ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ  เพื่อตอบข้อสงสัยของท่านและ/หรือ  ดำเนินการตามคำขอของท่าน รวมทั้งเพื่อส่งข้อมูลด้านบริหารจัดการให้แก่ท่าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบาย เงื่อนไข หรือข้อกำหนดของบริษัทฯ เป็นต้น
  • เพื่อการดำเนินงานของบริษัท เช่น เพื่อเข้าทำสัญญาและดำเนินการตามหน้าที่ในสัญญาที่มีต่อท่าน การจัดซื้อจัดจ้าง การทำธุรกรรมทางการเงิน เป็นต้น รวมทั้งเพื่อการเข้ามาปฏิบัติงานของผู้รับเหมาและ/หรือผู้ให้บริการก่อนเข้ามาปฏิบัติงาน ภายในบริษัทฯ
  • เพื่อการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชัน (ถ้ามี) ของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงปัญหาต่างๆ เช่น บั๊ก (Bug) ปัญหาการเชื่อมต่อ เพื่อแจ้งความคืบหน้าต่างๆ เป็นต้น
  • เพื่อการปรับปรุงประสบการณ์การได้รับบริการจากท่าน (Profiling) โดยบริษัทฯ จะทำความเข้าใจพฤติกรรมและ แนวคิดของท่านผ่านพฤติกรรม วิธีการใช้บริการของท่าน และแบบสอบถามต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ/ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เพื่อการตลาดและการโฆษณา เพื่อทำวิจัยทางการตลาด หรือเพื่อขอคำติชมจากท่านเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการของบริษัทฯ
  • เพื่อการติดต่อกับท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์/บริการของบริษัทฯ เพื่อทำการสำรวจเพื่อสอบถามความพึงพอใจของท่านกับผลิตภัณฑ์/บริการของบริษัทฯ เพื่อการนัดหมายท่านเพื่อการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ/ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
  • เพื่อการบริหารจัดการและดำเนินการกับช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ ฟังก์ชันของช่องทางการสื่อสารที่ให้บริการ โดยเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ เพื่อทำการตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลในช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ
  • เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการเข้าถึง หรือพื้นที่ต่างๆ ภายในบริษัทฯ การรักษาความมั่นคงปลอดภัย การป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมทั้งเพื่อเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนทั้งกรณีมาตรการภายในบริษัทฯ และการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐและองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย
  • เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินหรือสุขภาพของบริษัทฯ พนักงานของบริษัทฯ ท่าน บุคคล ผู้มาติดต่อหรือบุคคลอื่นภายในบริษัทฯ เช่น การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ เป็นต้น
  • เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการติดตามหรือแจ้งเหตุที่อาจเกี่ยวพัน เช่น แจ้งอุบัติเหตุ การติดต่อใน กรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายอาญา พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ..2560 กฎหมายแรงงาน กฎหมาย หรือ กฎระเบียบใดๆ ที่มีผลบังคับใช้กับบริษัทฯ
ทั้งนี้หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งให้ ท่านทราบในลักษณะที่เหมาะสมถึงการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของประกาศฉบับนี้

ข้อ 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล ในประกาศฉบับนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลธรรมดานั้นได้ไม่ว่า ทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น การสแกนลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า เป็นต้น) หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน ได้แก่ ชื่อและนามสกุล ชื่อเล่น เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลข หนังสือเดินทาง วันเกิด ประเทศและเมืองที่เกิด
  • ข้อมูลติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ทางไปรษณีย์ หมายเลข โทรศัพท์ อีเมล์ ไลน์ไอดี ชื่อบัญชีในสื่อสังคมออนไลน์
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบเทคโนโลยีของบริษัทฯ ได้แก่ หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser) และคุกกี้ (Cookies)
  • ข้อมูลการเงิน เช่น เงินเดือน สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เลขบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลการเข้ามาติดต่อภายในบริษัทฯ เช่น เลขบัตรประชาชน เลขใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขทะเบียนรถ ภาพกล้องวงจรปิด เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของบริษัทฯ เช่น การเข้าใช้บริการ การเข้าทำหัตถการในคลินิค หรือกิจกรรมที่ดำเนินการจัดโดยบริษัทฯ เป็นต้น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ รายละเอียด หรือเอกสารเกี่ยวกับคู่สมรส บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา รายชื่อเครือญาติของท่าน ซึ่งรวมถึงเบอร์โทรศัพท์/  โทรศัพท์มือถือของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ ท่านรับรองและรับประกันว่าท่านมีอำนาจในการกระทำดังกล่าวและอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามประกาศฉบับนี้ นอกจากนี้ท่านยังมีหน้าที่ใน การแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศฉบับนี้และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ข้อมูลสัญชาติ ข้อมูลเชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ข้อมูลพฤติกรรมทางเพศ
  • ข้อมูลสุขภาพ รวมถึงผลการตรวจสารเสพติด ข้อมูลผลการตรวจร่างกายของผู้รับเหมาและ/หรือผู้ให้บริการก่อนเข้ามาปฏิบัติงานให้แก่บริษัทฯ
  • ข้อมูลผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้รับเหมาและ/หรือผู้ให้บริการก่อนเข้ามาปฏิบัติงาน ให้แก่บริษัทฯ
  • ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้า ข้อมูลลายนิ้วมือ ข้อมูลการจดจำเสียง ข้อมูลการสแกนม่านตา เป็นต้น

ข้อ 3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบุคคลใดโดยปราศจากการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยตามที่ระบุไว้ข้างต้นท่านรับทราบและยินยอมว่า บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลให้กับบุคคลอื่น ดังต่อไปนี้
  • บุคคลหรือองค์กรที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้ดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการบริหาร จัดการองค์กรของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศผู้ให้บริการวิเคราะห์ ข้อมูล สถิติ การวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์การออกแบบ เป็นต้น
  • คู่ค้า พันธมิตรทางการค้าและธุรกิจ
  • ที่ปรึกษาจากภายนอก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ทนายความ และผู้ตรวจสอบบัญชีซึ่งช่วยเหลือในการดำเนิน ธุรกิจของเรา หรือ การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • บริษัท ฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อ หน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงาน รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้ เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย
  •  
ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการให้บุคคลหรือองค์กรเหล่านั้นมีมาตราการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่บนพื้นฐานการรู้เท่าที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา

ข้อ 4. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

กรณีที่มีเหตุต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

ข้อ 5. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมาย กำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น เก็บไว้ไม่เกิน 10 ปีตามอายุความกฎหมาย เป็นต้น

ข้อ 6. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measures) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measures) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ข้อ 7. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

  1. สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางาน สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ท่านพึงได้รับจากบริษัท หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
  2. สิทธิเข้าถึง รับสำเนา และรับทราบการได้มา ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท
  3. สิทธิโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือ ใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าว ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าว ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง
  4. สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีเพื่อการที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
  5. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
  6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้ สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
  7. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ในกรณีที่ท่านยื่นคำร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอ ดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อนึ่ง บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการ ตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลเพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิของท่านอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

ข้อ 8. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางที่เหมาะสม

ข้อ 9. ช่องทางการติดต่อ

บริษัท เมกะคลินิค จำกัด
ที่อยู่: 100/27 ชั้น 17 สาธรนครทาวเวอร์ ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
ช่องทางการติดต่อ โทร: 02-675-4455
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: เลขานุการบริษัทฯ
ช่องทางการติดต่อ: dpo@megaclinicthailand.com

ข้อ 10. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ภายใต้การบังคับใช้ตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น
ประกาศใช้ ณ วันที่ 1 มกราคม 2568