การทาลิปมันช่วยแก้ปากแห้ง ลอก เป็นขุยได้ เพราะสารบำรุงต่าง ๆ ในลิปมันล้วนมีสรรพคุณเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก แต่สำหรับใครที่มีปัญหาปากแห้งเรื้อรัง หนักหน่อยคือปากเป็นร่อง ทาลิปไม่สวย แก้ยังไงไม่หาย แถมยังชอบลืมทาลิปมัน อาจต้องหาวิธีเติมเต็มความชุ่มชื้นจากภายในที่คงสภาพผลลัพธ์ไว้ได้ นานขึ้น อย่างการฉีดฟิลเลอร์ปาก ปากแห้ง ลอก ปากเป็นขุย เกิดจาก ปากแห้ง ลอก ปากเป็นขุย มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษาความชุ่มชื้นในผิว เพราะริมฝีปากก็คือผิวหนังชนิดหนึ่ง หากผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่ว่าจะเพราะดื่มน้ำน้อย การใช้ชีวิตอยู่ในสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้งและเย็น หรือการแพ้ แสบ ระคายเคือง จากพฤติกรรมชอบเลียริมฝีปากบ่อย ๆ ก็ล้วนเป็นสาเหตุของอาการปากแห้งได้ทั้งหมด ปากแห้ง ลอก ปากเป็นขุย ทำให้เกิดปัญหาอะไรตามมา ปากเป็นร่อง หรือปากตกร่อง ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก เป็นผลให้ที่พื้นผิวกลายเป็นร่องขีด ๆ ไม่อวบอิ่มดูสุขภาพดี ซึ่งปัญหาปากตกร่องจะสังเกตเห็นได้ชัดมากเวลาทาลิปสติก ทาลิปไม่ติดผิวดี ลิปลอกออกง่าย เศษปากที่แห้งลอกนั้นพร้อมหลุดออกจากผิวตลอดเวลา เมื่อทาลิปไปสักพัก ลิปก็จะหลุดตามมาด้วย บางคนเจอปัญหาทาลิปทับไปเพิ่มอีก สีก็ไม่ติดแล้ว

ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยและริ้วรอยเหี่ยวย่นตามใบหน้า เป็นสัญญาณความแก่ที่พวกเราส่วนใหญ่ล้วนต้องเจอ แต่ก็โชคดีที่ปัจจุบันวงการแพทย์ความงามมีนวัตกรรมที่ช่วยชะลออายุให้กับผิวหน้า อย่างการทำหัตถการยกกระชับ Ultraformer III และการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย หน้าเหี่ยว ผิวคล้อย ริ้วรอยเริ่มมา หน้าเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อย เกิดจาก สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ เมื่ออายุมากขึ้น คือชั้นผิวหนังเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและชั้นไขมัน ซึ่งทำหน้าที่หลักในการช่วยพยุง รักษาความชุ่มชื้น และคงความกระชับเต่งตึงให้ผิวหน้า เมื่อคอลลาเจนและไขมันใต้ชั้นผิวลดลง เราก็จะเริ่มรู้สึกถึงผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ไม่มีน้ำมีนวล พบริ้วรอยร่องลึกตามร่องแก้ม ใต้ตา หรือร่องน้ำหมาก ทำให้ใบหน้าดูแก่ แม้ว่าอายุจริงเราจะยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นก็ตาม ริ้วรอยตามใบหน้า เกิดจาก ปัญหาริ้วรอย ยังคงเป็นผลพวงจากการที่คอลลาเจนใต้ชั้นผิวน้อยลง พฤติกรรมการแสดงสีหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม หัวเราะ โมโห สงสัย ฯลฯ ส่งผลให้กล้ามเนื้อต้องขยับบ่อยครั้งจนเริ่มปรากฏเป็นรอยพับ รอยย่น แต่ดันกลับไปเรียบเนียนในสภาพเดิมไม่ได้เพราะผิวหนังขาดความยืดหยุ่น รอยตีนกา รอยหน้าผากย่น และรอยขมวดคิ้ว คือ ริ้วรอยที่มองเห็นได้ชัดที่สุด และเป็นตัวการสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ใบหน้าเราดูแก่ เหี่ยว และดูไม่ค่อยเป็นมิตร หมอแนะนำ 2

“เหนียง” ตัวการทำให้หน้าดูอ้วน หน้าไม่เรียว กรอบหน้าหาย แถมยังกำจัดออกยากซะเหลือเกิน ต่อให้ขยันออกกำลังกายขนาดไหนก็ดูเป็นจุดที่ลดได้ช้าและดูไม่ค่อยออกว่าลดแล้ว หลาย ๆ คนจึงเริ่มหันมาสนใจหัตถการสลายไขมันสะสมถาวรอย่างการฉีดแฟต ซึ่งแน่นอนว่าที่เมกะคลินิกเองก็มีความเชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้าด้วยวิธีนี้เป็นอย่างดีค่ะ วิธีทำให้หน้าเรียว ลดเหนียง กรอบหน้าชัด เหนียง คือ ลักษณะของผิวหนังบริเวณใต้คางที่หย่อนคล้อยจากการสะสมของไขมันส่วนเกินปริมาณมาก เป็นผลให้ผิวห้อยย้อยลงมา ใครที่มีเหนียงเยอะ ๆ จะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนแม้ไม่ได้ก้มหน้า ส่วนใครที่มีเหนียงไม่เยอะอาจต้องก้มหน้าเล็กน้อย ให้ช่วงคางและคอเค้นให้เหนียงโผล่ออกมา แต่ไม่ว่าจะมีเหนียงแบบไหนก็ส่งผลต่อความมั่นใจของแต่ละคนได้เหมือนกัน ไขมันสะสมใต้เหนียงเยอะ ฉีดแฟตเหนียงช่วยได้อย่างไร การออกฤทธิ์ของตัวยาแฟต Lipo-S เมื่อแพทย์ทำการฉีดแฟตสลายไขมัน Lipo-S สูตรเฉพาะของเมกะคลินิก เข้าไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณเหนียง ตัวยาก็จะออกฤทธิ์สลายเซลล์ไขมันให้แตกตัวเป็นอนุภาคที่เล็กลง ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึม (Metabolism) ให้อนุภาคไขมันที่แตกตัวแล้วเหล่านั้นถูกขับออกจากร่างกายไปอย่างถาวร ฉีดแฟตเหนียง กี่วันเห็นผล หลังจากฉีดแฟตเหนียง Lipo-S ไปในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ไขมันสะสมที่เหนียงจะเริ่มสลายไปได้ประมาณ 10-20% ตามปริมาณไขมันเดิมของแต่ละคนแพทย์จะแนะนำให้ฉีดต่อเนื่องทุกสัปดาห์ อย่างน้อย 3-5 ครั้ง ขึ้นไป เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์สลายไขมันส่วนเกินและลดเหนียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าพูดถึงสิว แน่นอนว่าเป็นปัญหากวนใจกับใครหลายคนเป็นอย่างมาก เมื่อสิวหายไป ก็ยังมีปัญหาใหม่มาอีก นั่นก็คือปัญหารอยสิว รอยดำ รอยแดงจากสิวหรือแม้กระทั่งปัญหาหลุมสิว โดยปัญหาเหล่านี้มักส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ทำให้หลายคนมองหาวิธีการลดรอยสิว ที่สามารถเห็นผลลัพธ์เร็วที่สุดสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีลดรอยสิวแบบเร่งด่วน ในบทความนี้หมอจะพาทุกคนมาทำความรู้จักรอยสิวให้มากขึ้น และยังรวบรวมวิธีการลดรอยสิว ไม่ว่าจะด้วยวิธีธรรมชาติที่สามารถทำได้เองหรือวิธีการลดรอยสิวแบบเร่งด่วน สามารถศึกษาข้อมูลเพื่อนำไปปรับใช้ได้ตามความต้องการได้เลยค่ะ รอยสิวเกิดจากอะไร โดยส่วนใหญ่แล้ว รอยสิว มักเกิดจากการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี เช่น กดสิวเองจนผิวบริเวณนั้นบอบช้ำ ทำให้เกิดปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว และหลุมสิวตามมาซึ่งรอยสิวแต่ละประเภทก็มีสาเหตุที่ต่างกันออกไป สามารถแบ่งตามลักษณะได้ดังต่อไปนี้ ประเภทและสาเหตุของรอยสิว รอยแดงจากสิว เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตจนกลายเป็นสิวอักเสบ รอยแดงจากสิวมักเกิดขึ้นหลังจากสิวอักเสบยุบลง เป็นผลมาจากหลอดเลือดฝอยบริเวณที่เป็นสิวขยายตัว รอยดำจากสิว เป็นผลมาจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเกินไป เพื่อซ่อมแซมผิวที่เกิดการอักเสบ รอยดำมักเกิดหลังจากสิวอักเสบหายแล้ว และสามารถอยู่ได้นานกว่ารอยแดง รอยหลุมสิว เมื่อสิวมีการอักเสบที่รุนแรง ร่างกายผลิตคอลลาเจนและเนื้อเยื่อมาไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมผิว ทำให้เกิดเป็นรอยหลุมสิวบนชั้นผิวของเรา ปัญหารอยหลุมสิวเป็นปัญหาที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยตนเอง วิธีรักษารอยสิวด้วยตัวเอง การรักษารอยสิวสามารถทำได้เองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น การสครับผิว พอกหน้าด้วยสมุนไพรเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออก การทานอาหารเสริม การทาครีมลดรอยดำ และทายาลดการอักเสบของผิวหนังเพื่อลดรอยแดงจากสิว อย่างไรก็ตามการรักษารอยสิวด้วยตัวเองอาจไม่ได้ผลกับทุกคน อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอ

ปัญหาหน้าบาน ดูขาดมิติ กรอบหน้าไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่เพราะแก้มเยอะหรือกรามใหญ่ แล้วควรเลือกแก้ไขด้วยหัตถการไหนระหว่าง “โบท็อก” หรือ “เมโสแฟต” ที่จะช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลงได้ เพราะทั้ง 2 หัตถการนั้นมีกระบวนการทำงานที่แตกต่างกัน หมอว่าเรามาทำเข้าใจกับหัตถการเหล่านี้ไปด้วยกันดีกว่าค่ะว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกฉีดตัวไหนถึงจะช่วยแก้ไขรูปหน้าให้เรียวลงได้ โบท็อก คืออะไร? โบท็อก คือ “โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A)” เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวและทำงานลดลงชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง จึงนิยมใช้ในการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า แฟต คืออะไร? แฟต คือ การสลายไขมันในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งเมื่อฉีดแฟตไปแล้วร่างกายจะดึงไขมันมาเป็นพลังงาน และมีไขมันบางส่วนแตกตัวเป็นของเหลว โดยร่างกายจะกำจัดไขมันเหล่านั้นด้วยการขับออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ จากตารางเปรียบเทียบจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า โบท็อกและแฟตต่างกันอย่างไร โบท็อกนั้นออกฤทธิ์โดยตรงที่ชั้นกล้ามเนื้อ ส่วนแฟตจะออกฤทธิ์โดยตรงที่ชั้นไขมัน ถึงแม้ว่าตัวยาจะทำงานกันคนละแบบ แต่ก็ช่วยเสริมให้รูปหน้าเรียวเล็กลงได้ ทีนี้ต้องมาดูกันต่อว่าแต่ละคนควรเลือกฉีดตัวไหนมากกว่ากัน โบท็อก vs แฟต หัตถการไหนเหมาะกับใคร? โบท็อก เหมาะกับคนที่มีปัญหาหน้าบานจากเนื้อกรามที่มีขนาดใหญ่

รูขุมขนกว้างเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า เมื่อรูขุมขนเหล่านี้ขยายใหญ่ขึ้นทำให้เกิดผิวที่ไม่เรียบเนียน สร้างความกังวลและความรู้สึกไม่มั่นใจ ให้กับหลายคน วิธีการรักษารูขุมขนกว้างในปัจจุบันมีหลายวิธี สำหรับใครที่กำลังหาวิธีทำให้ปัญหารูขุมขนกว้างกวนใจน้อยลง บทความนี้หมอจะมาบอกวิธีการรักษารูขุมขนกว้างแบบต่างๆ พร้อมทั้งวิธีการแบบเร่งด่วน หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ สาเหตุของรูขุมขนกว้าง รูขุมขนกว้างสามารถเกิดได้ทั้งเพศหญิงและชาย โดยมีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุของปัญหารูขุมขนกว้าง ได้แก่ ฮอร์โมน หากร่างกายมีฮอร์โมนเพศชายที่มากกว่าปกติ จะทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังมีขนาดใหญ่ขึ้น ผิวจึงต้องผลิตน้ำมันออกมาทางรูขุมขน ด้วยเหตุนี้รูขุมขนจึงกว้างขึ้น การทำความสะอาดผิว เมื่อผิวหน้าไม่สะอาด สิ่งสกปรกก็เข้าไปอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย ทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กรรมพันธุ์ รูขุมขนกว้างจากกรรมพันธุ์ ไม่สามารถแก้ไขให้หายขาดได้ แต่สามารถหาวิธีดูแลกระชับรูขุมขนให้เล็กลงได้ ผิวไม่แข็งแรงขาดความชุ่มชื้น หากบำรุงผิวหน้าไม่เพียงพอ ผิวแห้งขาดน้ำ สูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิวไปผิวจะหย่อนคล้อย จึงทำให้เห็นรูขุมขนที่กว้างและชัดขึ้น วิธีรักษารูขุมขนกว้าง รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ ล้างหน้าให้สะอาด สครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาผิวบางและแพ้ง่ายได้ รักษาด้วยน้ำแข็ง เตรียมน้ำแข็งสะอาดมาถูที่ใบหน้า ความเย็นจากน้ำแข็งจะทำให้รูขุมขนหดตัว แต่เป็นวิธีการรักษารูขุมขนกว้างได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นนะคะ เมื่ออุณหภูมิผิวหน้าเป็นปกติ รูขุมขนก็จะกลับมาขนาดเท่าเดิม รักษาด้วยสกินแคร์ หากใครเลือกวิธีนี้ ควรเลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่บางเบา เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน รักษาด้วยการฉีดรีจูรัน หากต้องการกระชับรูขุมขนอย่างเร่งด่วน การฉีดรีจูรันเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด

เริ่มต้นการดูแลตัวเอง สิ่งแรกที่หลายๆคนกังวลก็คือผิวพรรณ เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเราเป็นเมืองร้อน แดดแรง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ตัวช่วยในการดูแลผิวอย่างเร่งด่วนก็คือ การฉีดวิตามินผิว ปัจจุบันการฉีดวิตามินผิวเพื่อให้ผิวสดใส ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก ก่อนจะตัดสินใจฉีดวิตามินผิวก็ควรมีการเตรียมความพร้อม ศึกษาหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน สามารถฉีดวิตามินผิวได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นบทความนี้หมอจะพาทุกคนมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปฉีดวิตามินผิวไปชมกันเลยค่ะ เตรียมความพร้อมก่อนฉีดวิตามินผิว สำรวจปัญหาผิวเพื่อการแก้ไขที่ตรงจุดเราจะต้องทราบถึงปัญหาก่อน การสำรวจสภาพผิวของตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เองง่ายๆโดยการสังเกต ตัวอย่างเช่น ปัญหาผิวแห้ง จะมีลักษณะแห้งตึง แตกลาย หรืออาจลอกเป็นขุย ปัญหาผิวหมองคล้ำ มักจะมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกัน ไม่สดใสค่ะ ศึกษาคลินิกเลือกคลินิกฉีดวิตามินผิวที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตตรวจรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขถูกต้อง อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ปรึกษาแพทย์วิตามินแต่ละสูตร ถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน การปรึกษาแพทย์ เป็นขั้นตอนประเมินสภาพผิวเพื่อปรับสูตรยาให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล เตรียมร่างกายก่อนเข้ารับการฉีดวิตามินผิว ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ปล่อยให้ท้องว่าง และดื่มน้ำให้มากๆเพื่อลดความเข้มข้นของเลือดแถมยังช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย ราคาวิตามินผิวจากเมกะคลินิก เป็นวิตามินผิวสูตรเข้มข้น ยิ่งฉีดเยอะยิ่งคุ้มกว่า ฉีดวิตามินผิวมีผลข้างเคียงหรือไม่ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้บ้างชั่วคราว คือ อาการเมื่อยแขนข้างที่ฉีด มีรอยช้ำหรือรอยเข็มเล็กๆซึ่งจะจางลงใน 7-14 วัน หรือปัสสาวะมีสีหรือกลิ่นของวิตามิน ซึ่งเป็นอาการปกติไม่มีอันตรายใดๆนอกจากนี้หากใครที่พักผ่อนไม่เพียงพอหรือฉีดตอนท้องว่าง อาจมีอาการมึนศีรษะ

โดยปกติแล้วหลังจากการฉีดเมโสแฟต ลดไขมัน เรามักจะได้คำแนะนำ ข้อห้ามหรือข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อให้ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของตัวยายังคงอยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้วข้อห้ามหลังฉีดแฟตบางข้อนั้นสามารถทำได้โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อตัวยาเลย เพราะฉะนั้นหมอจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจใหม่ว่าหลังฉีดแฟตแล้วสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้างในบทความนี้กันค่ะ หลังฉีดแฟตห้ามนอนราบ นอนตะแคง เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยกันเยอะมากว่าทำได้ไหม หมอขอตอบข้อสงสัยตรงนี้เลยค่ะว่า สามารถทำได้ ไม่ว่าจะนอนหงายราบไปกับพื้น นอนตะแคง หรือก้มหัวต่ำก็ทำได้เช่นกันค่ะ ท่านอนต่าง ๆ ไม่มีผลต่อการฉีดแฟต ดังนั้นหมดกังเรื่องท่าทางการนอนได้เลยค่ะ หลังฉีดแฟตกินแอลกอฮอล์ได้ไหม สายดื่ม สายปาร์ตี้กินแอลกอฮอล์ไปตัวยาแฟตจะสลายไหม จริง ๆ แล้วสามารถกินแอลกอฮอล์ได้ตามปกติเลยค่ะ เครื่องดื่มมึนเมาไม่มีผลต่อตัวยาที่ฉีดเข้าไป เพียงแต่ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อาจทำให้มีรอยช้ำจากเข็มที่ชัดขึ้นได้ ใครที่ผิวบอบบางช้ำง่ายแนะนำให้เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สัก 1 – 3 วันหลังฉีดแฟตค่ะ หลังฉีดแฟตห้ามออกกำลังกาย สำหรับการออกกำลังกายหลังฉีดแฟตสามารถทำได้ค่ะ เป็นการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายและยังมีส่วนช่วยให้ตัวยาเมโสแฟตทำงานได้ดี โดยดึงไขมันมาเป็นแหล่งพลังงาน นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันการเกิดไขมันสะสมใหม่ในร่างกายอีกด้วยค่ะ หลังฉีดแฟตห้ามกินอะไร กินปลาร้าได้ไหม หลังฉีดแฟตแล้วสามารถกินอาหารได้ตามปกติเลยค่ะ ไม่ว่าจะส้มตำ ยำ ปลาร้าหรืออาหารรสจัด แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ๆ มัน ๆ

ถ้าพูดถึงการแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าด้วยสารเติมเต็มหรือ “ฟิลเลอร์” ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงานไปจนถึงผู้ใหญ่ ยิ่งโดยเฉพาะเทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ปากที่สามารถปรับทรงปากให้รับกับใบหน้าหรือแก้ไขปัญหารูปปากให้ได้สัดส่วนที่ดียิ่งขึ้นได้ เพราะเพียงแค่ฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยเฉพาะทรงปากที่เราเลือกสามารถเปลี่ยนลุคให้กลายเป็นคนละคนได้ค่ะ ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำทรงปากยอดฮิตที่เหมาะกับสาวเอเชีย เพิ่มมิติให้รูปปากอวบอิ่ม ดูสุขภาพดีได้ง่าย ๆ เพียงแค่ฟิลเลอร์ปาก ลองมาดูกันว่า ทรงปากแบบไหนที่สาว ๆ เลือกมาเป็นตัวอย่างให้หมอกันค่ะ 4 ทรงปากสวย เปลี่ยนลุค ปากทรง Classic Lips ทรงปากนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติ โดยยึดจากโครงสร้างปากเดิม ปรับแต่งทรงให้มีมิติขึ้นและเพิ่มความหนาที่ริมฝีปากล่างให้อวบอิ่มขึ้น ซึ่งที่เมกะคลินิกจะใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์มุมปากให้ยกขึ้น ทรงนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ดูละมุน เน้นความอิ่มฟูของปาก ไม่เน้นขอบปากหรือกระจับปาก และลดร่องลึกบนปากให้ดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ปากทรง Cherry Lips ทรงปากยอดฮิตอย่างทรง Cherry Lips เป็นทรงที่สาว ๆ หลายคนชื่นชอบและเลือกเป็นตัวอย่างในการฉีดฟิลเลอร์อยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นทรงที่ทำให้ใบหน้าดูหวานขึ้นด้วยริมฝีปากบนที่เรียวสวย ขอบปากชัดเจน เพิ่มกระจับปาก เพิ่มความน่ารักและเติมความอวบอิ่มที่ริมฝีปากล่างให้ดูคล้ายคลึงกับลูกเชอร์รี่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทรงปากนี้ค่ะ ปากทรง Baby Lips สำหรับสาว