Search
Search
ฟิลเลอร์ Neuramis 5,990.-/cc แอดไลน์เลย!
ฉีดโบลดริ้วรอย แบบอยู่หมัด

กันไว้ดีกว่าแก้ ฉีดโบลดริ้วรอยตั้งแต่เนิ่น ๆ ดีอย่างไร? ช่วยให้หน้าแก่ช้าลงได้จริงไหม?

ริ้วรอยบนใบหน้าคือสิ่งที่พวกเราทุกคนล้วนต้องเจอเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น โดยในปัจจุบันการฉีดโบลดริ้วรอยนั้นก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ช่วยได้จริงและถูกยอมรับเป็นวงกว้าง
ที่สำคัญเลยคือยิ่งฉีดตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งดี แต่เพราะอะไร? แล้วมันดีอย่างไร? เดี๋ยวเราไปหาคำตอบผ่านการทำความรู้จักกับการฉีดโบท็อกบริเวณนี้พร้อมกันเลยค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ปัญหาริ้วรอย เกิดจาก

ปัญหาริ้วรอย (หน้าผาก, หว่างคิ้ว, หางตา) เกิดจาก

คอลลาเจนในผิวลดน้อยลง

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าปัญหาริ้วรอยบนใบหน้านั้นมีความสัมพันธ์กับความสมบูรณ์ของคอลลาเจนในชั้นผิว อันเปรียบเสมือนสปริงที่ทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่น ตึงกระชับ ถ้าสปริงนั้นเสื่อมสภาพ ซึ่งหมายถึงชั้นผิวที่สูญเสียคอลลาเจน ผิวหน้าก็จะเริ่มมีความหย่อนคล้อย และนำไปสู่ริ้วรอยเหี่ยวย่นในที่สุด

การทำงานของมัดกล้ามเนื้อ

มองลึกลงไปถัดจากชั้นผิวหนังเราก็จะพบกับชั้นที่เป็นศูนย์รวมของมัดกล้ามเนื้อ ส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถขยับ เคลื่อนไหว และแสดงออกทางสีหน้าได้อย่างเป็นอิสระ แน่นอนว่าเรามีการแสดงออกทางสีหน้าอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่แรกเกิดถึงตอนนี้
โดยบริเวณที่มีการขยับซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ บ่อยครั้ง อย่างหน้าผาก กึ่งกลางระหว่างคิ้ว และหางตาด้านข้างขมับ นั้นทำให้กล้ามเนื้อมีการพับเข้าขยายออกอยู่เรื่อย ๆ จนเห็นเป็นรอยย่น บวกกับคอลลาเจนในชั้นผิวที่มีน้อย ก็ยิ่งทำให้รอยย่นเหล่านั้นมีความชัดยิ่งขึ้น และกลับไปสู่สภาพเดิมได้ช้า
และทั้งหมดนี้คือที่มาหลัก ๆ ของปัญหาริ้วรอยนั่นเองค่ะ

ฉีดโบลดริ้วรอย ช่วยได้อย่างไร?

การออกฤทธิ์ของตัวยาโบท็อก

การออกฤทธิ์ของตัวยาโบท็อกลดริ้วรอย
เมื่อฉีดโบท็อกหรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปยังกล้ามเนื้อมัดเล็กตามตำแหน่งที่มีปัญหาริ้วรอย ตัวยาจะออกฤทธิ์ระงับการสั่งการของเซลล์ประสาทที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้กล้ามเนื้อในจุดที่ฉีดเกิดการคลายตัวและถูกงดใช้งานชั่วคราว
กล้ามเนื้อที่ไม่มีการขยับในระยะเวลาหนึ่งก็จะค่อย ๆ คลายตัวและมีขนาดเล็กลง จึงทำให้รอยเหี่ยวย่นดูจางลง ร่องลึกดูตื้นขึ้น และผิวเรียบเนียนขึ้น

ข้อดีของการฉีดโบลดริ้วรอย

  • สะดวก รวดเร็ว ก่อนฉีดไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก
  • ได้มีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ลงอีกครั้ง รู้สึกมั่นใจขึ้น
  • ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่และริ้วรอยลึกถาวร
  • ราคาไม่แพงมาก ค่อนข้างเข้าถึงง่าย

ฉีดโบลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล?

ภาพขณะฉีดโบท็อกริ้วรอย
การฉีดโบลดริ้วรอยเป็นการฉีดโบท็อกเข้าที่กล้ามเนื้อมัดเล็กบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และหางตา จะเริ่มเห็นผลในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังฉีด โดยเมื่อแสดงสีหน้าจะมีริ้วรอยปรากฏขึ้นมาน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง และคงสภาพผลลัพธ์ได้ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนสลายหมดเองตามธรรมชาติ เร็วช้าขึ้นอยู่กับร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนเป็นหลัก
และถ้าถามว่า เราเริ่มฉีดโบลดริ้วรอยได้ตอนไหน หมออยากให้ลองนึกภาพตัวเองตอนยังอายุไม่มาก สัก 20-30 ปี กับตัวเองตอน 40-50 ปี ที่ไม่เคยฉีดฉีดโบลดริ้วรอยเลย แน่นอนว่าระดับของปัญหาต้องมีความแตกต่างกันชัดเจน แต่ถ้าเราเริ่มฉีดโบท็อกเพื่อลดการทำงานของมัดกล้ามเนื้อเหล่านั้นตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยลดโอกาสการพัฒนาเป็นริ้วรอยลึกถาวรในอนาคตได้

ฉีดโบลดริ้วรอย ข้อห้ามมีอะไรบ้าง?

ฉีดโบลดริ้วรอย ข้อห้ามมีอะไรบ้าง?

เตรียมตัวก่อนฉีดโบลดริ้วรอย

สำหรับคนที่ผิวเป็นรอยช้ำเข็มได้ง่าย กังวลรอยหายช้ากว่าปกติ ให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้
  • งดใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน กลุ่มยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
  • งดการรับประทานยา วิตามิน และอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามิน E, วิตามิน K, อาหารเสริมประเภท Fish Oil และ Primrose อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด

การดูแลหลังฉีดโบลดริ้วรอย

ในช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดฉีดโบลดริ้วรอยอาจมีอาการปวดตึงศีรษะได้บ้างซึ่งเป็นอาการปกติ สามารถทานยาแก้ปวดหรือประคบอุ่นเพื่อบรรเทาได้ แต่ให้งดกด นวด หรือคลึงแรง ๆ ตรงบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 3 วัน
รวมถึงงดทำเลเซอร์ อบซาวน่า อบไอน้ำ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เนื่องจากความร้อนอาจทำให้ตัวยาสลายไปได้บ้าง ทั้งนี้ การใช้ความร้อนในชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานชาบู ปิ้งย่าง ใช้ไดร์เป่าผม และอาบน้ำอุ่น ยังคงทำได้ตามปกติ

Q&A เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ การฉีดโบลดริ้วรอย

Q: มีริ้วรอยแบบไหน ที่การฉีดโบลดริ้วรอยช่วยไม่ได้บ้าง
A: ก่อนอื่นหมอต้องย้ำว่าการทำงานของตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์โดยตรงกับกล้ามเนื้อเท่านั้น ส่วนพวกริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวชั้นนอก ที่ปรากฏขึ้นทั้งที่ไม่ได้แสดงสีหน้าเหล่านี้ เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว หรือเกิดจากผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น จึงเหมาะกับการทำหัตถการที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ให้ชั้นผิว อย่างเครื่องยิงพลังงานยกกระชับ หรือการฉีดตัว Collagen Booster เป็นหลัก
บทความแนะนำ:
Q: หลังฉีดโบลดริ้วรอย ทำไมบางคนหน้าเริ่มตึงไว บางคนหน้าเริ่มตึงช้า
A: การรู้สึกถึงความตึงหลังฉีดโบท็อก หมายถึงตัวยาเริ่มออกฤทธิ์ต่อมัดกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดแล้ว ซึ่งระยะเวลาออกฤทธิ์นั้นอยู่ในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังฉีด และมีความเป็นไปได้ที่บางคนจะเริ่มรู้สึกถึงผลลัพธ์เร็ว เช่น หน้าผากเริ่มตึงแล้ว หรือเวลายิ้มรอยหางตาก็ดูจางลง เพราะร่างกายของแต่ละคนอาจตอบสนองต่อตัวยาต่างกันได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ตามเราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาตามที่หมอบอกไปแน่นอนค่ะ ปกติที่เมกะคลินิกมีนัด Follow-up ติดตามผลหลังฉีดโบลดริ้วรอยทุกเคสอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีความกังวลอะไรก็สามารถสอบถามกับแพทย์ผู้ดูแลในวันนัดได้ อีกทั้งคลินิกมีประเมินย้ำฟรีให้อีก 1 ครั้งด้วย
Q: ยังไม่แก่ แต่เริ่มมีริ้วรอยแล้ว ฉีดโบลดริ้วรอยได้เลยไหม
A: ปกติหัตถการประเภทฉีดสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยส่วนใหญ่ปัญหาริ้วรอยจะเริ่มมาในช่วงเข้าสู่วัยทำงาน 20-25 ปีขึ้นไป ซึ่งช่วงอายุนี้ยังไม่ถือว่าแก่ แต่สำหรับคนที่กังวลหน้าแก่ก่อนวัยก็ควรเริ่มมองหาวิธีชะลออายุใบหน้าได้แล้ว และการฉีดโบท็อกก็คือหนึ่งในนั้นค่ะ
Q: มีวิธีป้องกันปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ที่ทำได้ด้วยตัวเองไหม
A: ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าเป็นสิ่งที่ยังไงก็ต้องเกิดขึ้น เพราะว่าเราทุกคนมีการขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้าแทบจะตลอดเวลาเลยค่ะ แต่ริ้วรอยจะยิ่งชัด ยิ่งลึกขึ้น เมื่อเริ่มอายุมาก เนื่องจากปริมาณและคุณภาพของคอลลาเจนในชั้นผิวลดลง ดังนั้นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันหรือชะลอไม่ให้ปัญหาริ้วรอยรุนแรงขึ้นในอนาคต คือการทำหัตถการที่ช่วยเรื่องกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว อย่าง Ultraformer III หรือ Thermage
พี่ตู่ทำ Thermage CPT หัวส้ม
Q: การฉีดโบลดริ้วรอยบ่อย ๆ ทำได้ไหม แล้วจะมีผลดี-ผลเสียอะไรบ้าง
A: คำว่าฉีดบ่อย ๆ นั้นยังไงก็ไม่ควรถี่เกินไป เช่น ฉีดทุก 1-2 เดือน แบบนี้จะมีความเสี่ยงได้รับโบท็อกเกินขนาด และทำให้ร่างกายเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี (Antibody) ขึ้นมาต่อสู้กับตัวยาโบท็อกที่ถูกฉีดเพิ่มเข้ามา เป็นผลให้โบท็อกไม่สามารถออกฤทธิ์ต่อมัดกล้ามเนื้อได้อีก หรือ เรียกสภาวะนี้ได้อีกอย่างหนึ่งว่า ดื้อโบท็อก
การเว้นช่วงฉีดโบลดริ้วรอยที่เหมาะสมที่สุดคือ ทุก ๆ 3-4 เดือน เพราะเป็นระยะเวลาที่โบท็อกสลายตัวหมดแล้ว และริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ กลับมาอีกพอดี โดยสามารถเข้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้าก่อนแล้วค่อยตัดสินใจฉีดก็ได้

ฉีดโบลดริ้วรอย ที่ไหนดี?

เมกะคลินิกเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปรับรูปหน้า ดูแลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 300,000 เคส เรามีทีมแพทย์มากประสบการณ์พร้อมดูแลใกล้ชิดตั้งแต่ขั้นตอนการรับคำปรึกษา ประเมินใบหน้าอย่างละเอียด แพทย์เป็นผู้ทำหัตถการให้แน่นอน และมีนัดติดตามผลการออกฤทธิ์ของตัวยาโบท็อกหลังฉีดอีกด้วย
โดยเลือกเข้ามาใช้บริการได้ที่เมกะคลินิก 5 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
  • สยามสแควร์ ตรงข้ามลานบันได PMCU ด้านหลังห้างสยามสแควร์วัน
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 9 โซนทาวเวอร์ ขึ้นมาให้ใช้ลิฟต์ที่ประตู C
  • ฟิวเจอร์รังสิต ปทุมธานี ในโรบินสัน ชั้น G
  • เซ็นทรัลเวสต์เกต ชั้น 2 ในโซน Central
  • ปากน้ำ BTS ศรีนครินทร์ สมุทรปราการ ทางออก 4 ลงบันไดมาเจอเลย
ฉีดโบท็อก ที่เมกะคลินิกดีอย่างไร

ฉีดโบลดริ้วรอย ราคา?

ฉีดโบลดริ้วรอย ราคา
*ทุกโปรโมชั่น หมด 31 ธ.ค. 68 แคปสอบถามรับสิทธิ์ได้เลย คลิก!
ทีนี้เราก็เริ่มเข้าใจและเห็นความสำคัญของการฉีดโบลดริ้วรอยกันตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วใช่ไหมคะ หมอแนะนำให้ฉีดซ้ำบริเวณเดิมได้ทุก ๆ 3-4 เดือน หลังตัวยาโบท็อกสลายหมดแล้ว แต่ไม่ควรฉีดซ้ำเร็วกว่านั้นเพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อยาและมีผลข้างเคียงอื่นตามมาได้
สามารถเข้ามาปรึกษาหมออย่างละเอียดได้ฟรี ที่เมกะคลินิก คลินิกความงามทั้ง 5 สาขา
  • คลินิกความงาม กรุงเทพมหานคร MEGA CLINIC สาขาสยามสแควร์
  • คลินิกความงาม นนทบุรี MEGA CLINIC สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต
  • คลินิกความงาม ลาดพร้าว MEGA CLINIC สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
  • คลินิกความงาม รังสิต ปทุมธานี MEGA CLINIC สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
  • คลินิกความงาม ปากน้ำ ศรีนครินทร์ MEGA CLINIC สาขาปากน้ำ
หรือเข้ารับคำปรึกษาเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่แอดมินของเมกะคลินิกได้เช่นกัน ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) หรือกดแอดไลน์ที่ปุ่มสีเขียวด้านล่างนี้