โบท็อกปีกจมูก (Nasal Flare Botox) คือการฉีดโบทูลินัมท็อกซิน ชนิด A (Botulinum Toxin Type A) เข้าบริเวณกล้ามเนื้อทั้งสองข้างของปีกจมูก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ทำให้ปีกจมูกยกหรือบานออกเมื่อยิ้ม หัวเราะ หรือหายใจแรง ๆ
การฉีดโบท็อกบริเวณนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่มีผลต่อการกางของปีกจมูก ส่งผลให้ทรงจมูกดูแคบลง เส้นจมูกดูเรียวขึ้น รูจมูกไม่บาน และช่วยเสริมความมั่นใจเวลาพูดหรือแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ปีกจมูกบานเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสามารถจำแนกสาเหตุหลัก ๆ ได้ดังนี้
วิธีสังเกตว่าเรามีปีกจมูกบานหรือไม่
โบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึงปีกจมูกให้บานออก ซึ่งเมื่อมัดกล้ามเนื้อดังกล่าวหดตัวก็จะทำให้ปีกจมูกยกขึ้น รูจมูกขยาย ดูบานหรือใหญ่ อย่างเวลาหายใจแรง ๆ หรือแสดงสีหน้า
แล้วพอตัวยาโบท็อกใช้เวลาในการออกฤทธิ์จนเต็มที่ กล้ามเนื้อบริเวณนี้จะคลายตัว ทำให้ไม่สามารถหดตัวหรือยกปีกจมูกได้เหมือนเดิม ส่งผลให้ปีกจมูกดูเล็กลง จมูกดูเรียวและเข้าทรงขึ้น ช่วยลดความบานของจมูกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อธิบายง่าย ๆ ด้วยภาพประกอบด้านล่างนี้
โบท็อกปีกจมูกจะเริ่มให้ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในช่วง 2–4 สัปดาห์ หลังฉีด
โบท็อกมีระยะเวลาการออกฤทธิ์ประมาณ 3–4 เดือน แต่เนื่องจากเป็นการฉีดในกล้ามเนื้อมัดเล็กจึงอาจอยู่ได้น้อยกว่าเล็กน้อย ประมาณ 3 เดือนโดยเฉลี่ย
ข้อควรรู้: โบท็อกปีกจมูกสามารถฉีดได้หลังผ่าตัดเสริมจมูกมาแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แนะนำให้แจ้งประวัติการทำศัลยกรรมใบหน้ากับแพทย์ก่อนทำหัตถการเสมอ
ทั้งการฉีดโบท็อกและการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง ต่างก็เป็นวิธีที่ช่วยลดความกว้างของปีกจมูกได้ แต่จะเหมาะกับปัญหาคนละประเภทและให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล โดยให้ลองพิจารณจาก 2 แง่มุมนี้
โบท็อกปีกจมูก เป็นการฉีดตัวยาเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้ปีกจมูกบาน ผลลัพธ์คือปีกจมูกดูเล็กลง รูจมูกแคบลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาจากกล้ามเนื้อหรือรูจมูกกระพือเวลายิ้ม
ผ่าตัดปีกจมูก เป็นการผ่าตัดเอาเนื้อหรือกระดูกอ่อนส่วนเกินออก เพื่อปรับโครงสร้างถาวร เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจากกระดูกอ่อนหรือเนื้อจมูกเยอะที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยโบท็อกได้
โบท็อกปีกจมูก มีข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เสี่ยงแผลเป็น เห็นผลภายใน 1 เดือน ส่วนข้อเสียคือ ผลลัพธ์ไม่ถาวร และไม่เหมาะกับผู้ที่ปีกจมูกบานจากกระดูกอ่อน
ผ่าตัดปีกจมูก มีข้อดีคือปรับโครงสร้างได้ถาวร เหมาะกับเคสที่มีเนื้อหรือกระดูกจมูกมาก ส่วนข้อเสียคือ ต้องพักฟื้นประมาณ 5–7 วัน มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นหรือแผลนูน ราคาสูงกว่า ที่สำคัญปรับแก้ไขยากหากไม่พอใจผลลัพธ์
ข้อควรรู้: ตัดปีกจมูกมาแล้ว ยังฉีดโบท็อกปีกจมูกได้ไหม? คนที่เคยผ่านการผ่าตัดตกแต่งปีกจมูกมาแล้ว หากรู้สึกว่าปีกจมูกยังดูบานหรือกระพือง่ายอยู่ สามารถเข้ามาให้แพทย์ที่คลินิกช่วยประเมินความเหมาะสมในการฉีดโบท็อกเพิ่มได้
โบท็อกปีกจมูก และ โบท็อกรัดแกนจมูก มีจุดประสงค์และเทคนิคการฉีดที่ต่างกัน ดังนี้
ทั้งสองตำแหน่งสามารถฉีดร่วมกันได้ เพื่อให้ทรงจมูกดูแคบ เรียว และสมส่วนมากขึ้นเมื่อมองจากด้านหน้าและด้านข้าง
รีวิวหลังฉีดโบท็อกปีกจมูกและรัดแกน (ภาพจริงจากลูกค้า MEGA CLINIC)
นอกจากปีกจมูกและรัดแกน ยังมีอีกหนึ่งตำแหน่งที่สามารถฉีดโบท็อกได้ นั่นคือ โบท็อกลิฟท์จมูก
การลิฟท์จมูก เป็นเทคนิคการไล่ฉีดตัวยาเป็นจุดเล็ก ๆ ตามแนวแกนของจมูกจากบนลงล่าง (เรียกอีกชื่อว่า “ฉีดไล่แกน”) เพื่อให้จมูกดูเรียบและมีทรงมากขึ้น เส้นแนวจมูกจะดูสมดุลขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ที่ MEGA CLINIC เราเลือกใช้โบท็อกแท้นำเข้าทั้งหมด 6 ยี่ห้อชั้นนำ ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย มีเอกสารกำกับภาษาไทยถูกต้องทุกขวด ได้แก่
บรรจุภัณฑ์ยาจะถูกแช่เย็นควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ลูกค้าขอตรวจสอบยาแท้ก่อนฉีดได้ทุกเคส
สำหรับการเก็บรายละเอียดทรงจมูกให้ดูสวยเข้ารูป แพทย์จะแนะนำให้ฉีดครบ 3 จุดหลัก ทั้งปีกจมูก รัดแกนจมูก และลิฟท์จมูก โดยใช้ตัวยารวมประมาณ 50 ยูนิต
แต่หากเลือกฉีดเฉพาะบางตำแหน่ง เช่น ปีกจมูกอย่างเดียว หรือรัดแกนจมูกเพียงอย่างเดียว ก็จะใช้ไม่เกิน 25 ยูนิต ต่อจุด
จำนวนยูนิตที่ใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะของกล้ามเนื้อ ความรุนแรงของปัญหา และการประเมินของแพทย์ในแต่ละเคส ซึ่ง MEGA CLINIC จะมีการวิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียดก่อน
ใครที่กังวลเรื่องรอยเข็มหรือรอยช้ำหลังฉีดโบท็อกบริเวณปีกจมูกที่ผิวบางและมีเส้นเลือดฝอยอยู่ใกล้ผิว แนะนำให้เตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ โดย
รอยช้ำเข็มบนผิวจากการทำหัตถการทั้งหมดจะค่อย ๆ จางหายไปเองใน 7–14 วัน ระหว่างนั้นถ้าอยากแต่งหน้า ใช้เมคอัพปกปิด หรือทาครีมลดรอยช้ำไปด้วยก็สามารถทำได้
หลังฉีดโบท็อกปีกจมูกสามารถล้างหน้า ทาครีม ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ตามปกติ รวมถึงการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนก็สามารถทำได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือบีบสิวแรง ๆ บริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก
หลังฉีดโบท็อกซ์ โดนแดดได้ไหม แสงแดดทั่วไปไม่สามารถทำให้โบท็อกสลายไวขึ้นได้ แต่ผิวบริเวณจมูกที่บอบบางอาจเกิดอาการแสบ แดง หรือไหม้ลอก ได้ง่ายขึ้นหากตากแดดจัดเป็นเวลานาน
หลังฉีดโบท็อกกินหมูกระทะได้ไหม หมูกระทะ ชาบู หรืออาหารร้อนอื่น ๆ ยังทานได้ตามปกติ อุณหภูมิของอาหารและไอน้ำจากเตาไม่สูงพอจะส่งผลกับตัวยาที่ฉีดในชั้นกล้ามเนื้อ
แต่อย่าลืมว่าควรเว้นระยะห่างจากแหล่งความร้อนโดยตรง เช่น ไม่เอาหน้าเข้าใกล้เตาถ่านแบบจ่อ ๆ หรือไม่อบหน้าด้วยไอน้ำ ในช่วงสัปดาห์แรกหลังฉีด
ปีกจมูกเป็นตำแหน่งที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก จึงมักรู้สึกเจ็บมากกว่าการฉีดโบท็อกบริเวณอื่น แต่ก็เป็นความเจ็บแบบจี๊ด ๆ ตึง ๆ ที่ทุกคนทนได้ ก่อนฉีดแพทย์จะให้ผู้ช่วยทำการประคบเย็นเพื่อลดความรู้สึก หากกังวลมากสามารถขอยาชาทาเพิ่มเติมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โบท็อกปีกจมูกเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลจริงสำหรับคนที่อยากลดความบานของปีกจมูกอย่างเป็นธรรมชาติ และถึงแม้จะดูเป็นหัตถการเล็ก ๆ ใช้เวลาไม่นาน ฉีดเสร็จไม่ต้องพักฟื้น แต่ก็ต้องอาศัยความละเอียด ความเชี่ยวชาญ เลือกใช้ตัวยาแท้มีคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสม
ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีดโบท็อกที่น่าไว้ใจ MEGA CLINIC สั่งซื้อโบท็อกแท้ 100% นำเข้าถูกต้อง เรามีทีมแพทย์มากประสบการณ์เฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้า พร้อมให้คำแนะนำและวางแผนการฉีดตามโครงสร้างใบหน้าแต่ละคนแบบเคสต่อเคส
สามารถฉีดโบท็อกปีกจมูกซ้ำได้ทุก 3–4 เดือน ตามรอบของการสลายตัวของตัวยา หากรู้สึกว่าปีกจมูกเริ่มกางหรือกลับมากระพือได้เหมือนเดิมแล้ว สามารถเข้ามาให้แพทย์ประเมินฉีดซ้ำได้เลย
หมายเหตุ: ควรหลีกเลี่ยงการฉีดถี่เกินความจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงของการดื้อโบท็อกในระยะยาว
การฉีดโบท็อกบริเวณจมูกไม่ใช่การเปลี่ยนโครงสร้างจมูกแบบถาวรเหมือนการทำศัลยกรรม แต่เป็นการปรับรูปจมูกให้ดูเรียว คม หรือสมดุลขึ้นชั่วคราว ด้วยการคลายกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ส่งผลต่อการขยับหรือการบานของจมูก ผลลัพธ์ที่ได้คือจมูกจะดูเข้ารูปขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทรงจมูกโดยรวมยังคงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างหรือเพิ่มความโด่งเหมือนการผ่าตัดเสริมจมูก
MEGA CLINIC มี 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
สามารถทักสอบถามเจ้าหน้าที่แอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดหัตถการ และสำรองคิวล่วงหน้าได้ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) โดยคลิกที่ปุ่มแอดไลน์สีเขียวด้านล่างหน้าจอได้เช่นกัน
