Oligio ดีไหม? เหมาะกับใคร? พวกเราคนไหนที่กำลังมองหาวิธียกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพ ช่วยชะลออายุใบหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แถมยังรู้สึกเจ็บน้อยมาก ๆ ขณะ ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสุด ๆ ในตอนนี้เลย
แต่หลายคนอาจยังมีคำถามเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้ ความแตกต่างจากหัตถการอื่น หรือผลข้างเคียงหลังทำ บทความนี้หมอจึงได้รวบรวม 10 คำถามที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจทำ Oligio เพื่อช่วยให้ทุกคนมีความเข้าใจในเจ้าเครื่องเทอร์มาจเกาหลี เจ็บน้อย แต่ผลลัพธ์ปัง! ตัวนี้กันมากยิ่งขึ้นค่ะ
1) Oligio คืออะไร ทำไมถึงเรียกว่า เทอร์มาจเกาหลี?
เหตุผลที่ Oligio (โอริจิโอ้) ได้ฉายาว่า “เทอร์มาจเกาหลี” ก็เพราะว่าตัวเครื่องนั้นใช้เทคโนโลยี Monopolar RF ในการยิงคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เพื่อยกกระชับผิวหน้า แบบเดียวกันกับของเครื่อง Thermage
2) ทำไมการทำเครื่อง Oligio ถึงเจ็บน้อยกว่า?
สิ่งที่ทำให้ โอริจิโอ้ ได้รับความสนใจมากกว่า Thermage ในช่วงนี้ คือนวัตกรรม Intelligent Cooling System ที่ถูกพัฒนาและติดตั้งมากับตัวเครื่อง ทำให้หัวยิงของ โอริจิโอ้ สามารถปล่อยคลื่นพลังงานพร้อมกับความเย็นและระบบสั่น ซึ่งช่วยลดอาการเจ็บระหว่างทำ แถมยังคอยวัดอุณหภูมิบนผิวหน้าได้ตลอดเวลาแบบ Real-time เพื่อลดโอกาสผิวไหม้ เบิร์น แสบร้อน
โอริจิโอ้ vs Thermage ต่างกันอย่างไร ถ้าอธิบายให้ง่ายก็คือ Thermage เป็นเทคโนโลยีที่เก่ากว่า ตัวหัวยิงถูกออกแบบมาให้ปล่อยคลื่นพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยยังไม่มีระบบวัดอุณหภูมิอัตโนมัติขณะทำ เลยเป็นผลให้หลายคนอาจรู้สึกร้อนบนผิวระหว่างที่กำลังทำหัตถการได้มากกว่า
3) Oligio เหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไร?
จุดเด่นของเครื่อง โอริจิโอ้ คือการปล่อยพลังงานความร้อนลงลึกถึงผิวชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน ซึ่งจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ยกกระชับผิวทั้งใบหน้าให้มีความเฟิร์มเข้ารูป ดูแลปัญหาผิวหย่อนคล้อยรวมถึงริ้วรอยเหี่ยวย่น อีกทั้งยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินตามแก้มและเหนียงได้อีกด้วย
ตัวอย่าง โอริจิโอ้ รีวิวก่อน-หลังทำ ของลูกค้า MEGA CLINIC:
4) ควรทำกี่ช็อต ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน?
จำนวนช็อตที่เหมาะสมสำหรับการทำ โอริจิโอ้ จะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวและบริเวณที่ต้องการยกกระชับ โดยทั่วไปหมอแนะนำให้ทำประมาณ 300 ช็อตต่อบริเวณ เพื่อให้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ลงลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5) Oligio กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน ควรทำซ้ำทุกกี่เดือน?
หลังทำจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวทันที 20-30% โดยจะรู้สึกผิวกระชับขึ้น โครงหน้าดูมีมิติขึ้นเล็กน้อย แล้วผลลัพธ์ก็จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 เดือน เนื่องจากเป็นระยะที่ร่างกายใช้ในสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
ผลลัพธ์ของการทำ โอริจิโอ้ สามารถอยู่ได้นานถึง 8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างผิว การใช้ชีวิต และการดูแลผิวหน้าของแต่ละคน
เพื่อคงสภาพผิวที่มีความกระชับและแลดูอ่อนเยาว์ แนะนำให้ทำซ้ำทุก 3 เดือน
6) Oligio vs Ultraformer III ต่างกันอย่างไร? (แบบเข้าใจง่าย)
ทั้ง โอริจิโอ้ และ Ultraformer III ต่างก็เป็นเครื่องยิงพลังงานยกกระชับ สลายไขมัน ที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมสูง แต่ 2 เทคโนโลยีนี้มีหลักการทำงานที่แตกต่างกันอยู่
ควรเลือกทำ โอริจิโอ้ หรือ Ultraformer III? หรือทำคู่กันดี? หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สามารถทำทั้งสองตัวควบคู่กันได้ เพราะแต่ละเทคโนโลยีจะช่วยเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีแก้มเยอะ มีเหนียงใต้คาง หรือมีผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการให้ใบหน้าเฟิร์มกระชับ ดูสวยเป๊ะขึ้นอย่างลงตัว
7) มีผลข้างเคียงหลังทำบ้างไหม?
หลังทำ โอริจิโอ้ ในบางคนอาจมีอาการผิวแดงเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติของผิวที่ตอบสนองต่อพลังงานความร้อน แล้วก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน ส่วนในบางรายอาจมีอาการบวมระบมหรือรู้สึกตึงผิวได้บ้าง โดยทั่วไปจะหายได้เองภายใน 7-14 วัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
8) หากเพิ่งร้อยไหมหรือทำศัลยกรรมใบหน้ามา จะทำ โอริจิโอ้ ได้เมื่อไหร่?
กรณีร้อยไหม แนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนเข้ามาทำ โอริจิโอ้ เพื่อให้ไหมเซ็ตตัวและลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองของผิว
กรณีทำศัลยกรรมใบหน้า เช่น ดึงหน้า เสริมคาง หรือศัลยกรรมอื่น ๆ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้แผลหายสนิท และเว้นช่วงให้โครงสร้างผิวฟื้นตัวเต็มที่ก่อนทำ โอริจิโอ้
9) สรุปข้อดี ทำไมถึงต้องเลือกทำ โอริจิโอ้?
- ใช้เวลาทำไม่นาน เพียง 20-30 นาที เท่านั้น
- มีระบบระบายความเย็น ช่วยลดอุณหภูมิผิวระหว่างทำ ไม่ให้ผิวหน้ามีความร้อนสะสมมากเกินไป
- มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิอัตโนมัติ หากผิวร้อนเกิน เครื่องจะหยุดทำงานเองเพื่อป้องกันผิวไหม้
- หัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เข้าถึงทุกจุด รวมถึงใต้ตาและขอบปาก ซึ่งเทคโนโลยีอื่นอาจเข้าไม่ถึง
- เห็นผลทันที หลังทำ 20-30% และชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน
- มีโอกาสบวมช้ำน้อย หลังทำสามารถแต่งหน้า หรือฉีดหน้า ฟิลเลอร์ โบท็อก งานผิว ต่อได้เลย
- เจ็บน้อยกว่า ร้อนน้อยกว่า Thermage ทำให้รู้สึกสบายผิวมากกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน
อ่านเพิ่มเติม
10) Oligio ราคาเท่าไหร่? ทำที่ไหนดี?
โอริจิโอ้ นับว่าเป็นทางเลือกการทำหัตถการที่ค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และลดไขมันส่วนเกิน ที่ให้ผลลัพธ์สภาพผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ที่ค่อนข้างชัดเจน ครอบคลุม โดยไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งยังเจ็บน้อยมากขณะทำ และแทบจะไม่ค่อยแสบร้อนผิวหลังทำ
*ทุกโปรโมชั่น หมด 31 ธ.ค. 68 แคปสอบถามรับสิทธิ์ได้เลย คลิก!
ปัจจุบัน MEGA CLINIC มี 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
- เมกะคลินิก สาขาสยามสแควร์ BTS สยาม ตั้งอยู่ตรงลานโล่งข้างร้านอาหารอินเตอร์ จอดรถหน้าคลินิกได้
- เมกะคลินิก สาขาเวสต์เกต นนทบุรี MRT ตลาดบางใหญ่ อยู่ในห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต ชั้น 2 โซนเซ็นทรัล
- เมกะคลินิก สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว BTS ห้าแยกลาดพร้าว/MRT พหลโยธิน อยู่ในห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 9 ใช้ลิฟต์ประตู C
- เมกะคลินิก สาขาฟิวเจอร์รังสิต ปทุมธานี อยู่ในห้างฟิวเจอร์รังสิต ชั้น G ในโรบินสัน ข้างร้าน Watsons
- เมกะคลินิก สาขาปากน้ำ ศรีนครินทร์ BTS ศรีนครินทร์ ติดบันไดทางออก 4 จอดรถหน้าคลินิกได้
คลินิกเดินทางสะดวก หาเจอง่าย ที่นี่เราให้บริการด้านความงามครบวงจร ทั้งฟิลเลอร์ โบท็อก บำรุงผิว ยกกระชับหน้าเด็ก ลดอายุชะลอวัย ไปจนถึงปากกาลดน้ำหนักสัดส่วน นอกจากนี้ยังมีบริการให้ ปรึกษากับแพทย์ก่อนตัดสินใจ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถทักสอบถามเจ้าหน้าที่แอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดหัตถการ และสำรองคิวล่วงหน้า ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) โดยคลิกที่ปุ่มแอดไลน์สีเขียวด้านล่างหน้าจอได้เช่นกัน
