Skinvive หรือ สกินวิฟฟ์ เป็นฟิลเลอร์งานผิวตัวใหม่ล่าสุดจากฝั่งอเมริกา ตัวนี้พัฒนามาจากฟิลเลอร์ Juvederm มีการปรับสูตรให้ตอบโจทย์เรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวล้ำลึกกว่าเดิม จุดเด่นอยู่ที่ Hyaluronic Acid (HA) แบบไมโครดรอปเล็ต ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมากๆ ช่วยกระตุ้นการทำงานของ Aquaporin 3 (AQP3) หรือ อควาพอริน 3 ที่อยู่ในผิว ให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้นานสูงสุดถึง 9 เดือน* ส่วนจะมีหลักการทำงานอย่างไร มาดูกันในหัวข้อถัดไปเลยค่ะ
การฉีด Skinvive คือการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน โดย Hyaluronic Acid ที่ถูกฉีดเข้าไปจะทำหน้าที่ช่วยเหลือ AQP3 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีขั้นตอนการทำงานดังนี้
การทำงานของ HA เหมือนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับ AQP3 ในผิวของเราให้ทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
แม้ว่า Skinvive กับ ฟิลเลอร์ จะเป็นฟิลเลอร์เหมือนกัน แต่ทั้งสองมีจุดเด่นและจุดประสงค์การใช้งานที่ต่างกันอย่างชัดเจน
หากใครยังลังเลอยู่ ลองดูความกังวลของตัวเองก่อนว่าต้องการเติมเต็ม หรือปรับรูปหน้าส่วนไหนที่ยังไม่พอใจไหม เช่นอยากเติมคาง ปรับหน้าเรียว หรือเติมใต้ตา ก็แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ค่ะ แต่หากใครที่มีปัญหาผิวแห้ง ไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง อยากฟื้นฟูผิวให้กลับมาอิ่มน้ำ มีสุขภาพดี การฉีด Skinvive คือหัตถการที่เหมาะสมกว่า
สำหรับคนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับ Skinvive ก็สามารถทำได้ภายในวันเดียวกัน โดยจะช่วยทั้งการปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก และเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวไปพร้อมกันในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม หมอจะเป็นผู้ประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้ปรึกษาหมอก่อนฉีดค่ะ
เป็นการฉีดกระจายทั่วบริเวณหน้าแก้มทั้งสองข้าง เพื่อให้ตัวยากระจายตัวและเติมความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
Many people with oily skin think they don’t need hydration, but the truth is that oily skin often lacks moisture. When your skin is dry, your oil glands work harder to produce more oil, leading to a greasy look and clogged pores.
แล้วฉีด Skinvive ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้จริงหรือ? อย่างที่ทราบกันดีว่า Skinvive คือ ฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยเฉพาะ หลังฉีดผิวมีความชุ่มชื้นขึ้น สามารถปรับสมดุลของน้ำมันในผิว ทำให้การผลิตน้ำมันส่วนเกินลดลง หน้าจึงดูมันน้อยลง รูขุมขนก็กระชับขึ้นนั่นเอง
หลังฉีดผิวจะเริ่มดูชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้นใน 2 สัปดาห์ และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4 สัปดาห์ ผิวจะดูฉ่ำวาว รูขุมขนกระชับ แต่งหน้าติดผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
esults can last 6-9 months, depending on your skin type and aftercare.
หัตถการงานผิวของ MEGA CLINIC มีหลายตัวให้เลือกตามปัญหาผิวของแต่ละคน เรามีตัวเลือกทั้ง Skinvive, Revive, Rejuran และ Rejuran HB ที่ตอบโจทย์แตกต่างกันไป และมีความโดดเด่นต่างกัน
เห็นคุณสมบัติคร่าว ๆ กันแล้ว ต่อไปมาดูความแตกต่างของแต่ละหัตถการแบบละเอียดกันเลยค่ะ
ใครอยากรู้ความแตกต่างระหว่าง Rejuran ทั้งสองแบบ บทความด้านล่างนี้มาคำอธิบายครบถ้วน
ก่อนฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สำหรับผู้หญิงต้องแน่ใจว่าไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
To reduce bruising risk, follow these tips to help bruises fade faster:
สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งหมอก่อนเข้ารับบริการหัตถการทุกครั้ง
หลายๆ คลินิกความงามแทบทุกที่มี Skinvive แต่เราจะเลือกฉีดที่คลินิกไหนดี? หมอได้สรุปสั้นๆ ไว้เพื่อเป็นแนวทางดังนี้ค่ะ
A: จำนวน cc ที่ใช้ในการฉีด Skinvive จะใช้ปริมาณข้างละ 1-2 cc ขึ้นกับโครงสร้างผิวค่ะ เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้น ความเรียบเนียน และผิวที่ฉ่ำฉาวได้อย่างทั่วถึง หลังจากฉีดไปแล้ว ผิวจะเริ่มดูชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ และหลังจาก 4 สัปดาห์ ผิวจะดูฉ่ำวาว รูขุมขนกระชับ และแต่งหน้าติดผิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
A: หลังฉีดอาจมีการนูนของตัวยาได้บ้าง และจะค่อยๆ ยุบลงใน 7-14 วัน ไม่มีอันตรายใดๆ สามารถนวดคลึงเบาๆ เพื่อช่วยให้ยุบเร็วขึ้นได้ค่ะ
A: Both improve skin hydration and rejuvenation but work differently:
In summary, Skinvive boosts skin cell function and hydration, while Revive focuses on long-lasting moisture retention.
A: Skinvive ที่เมกะคลินิก นำเข้าโดยตรงจากบริษัท อัลเลอร์แกน ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก USFDA (องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา) และ อย.ไทย นอกจากนี้ทีมหมอของเรายังได้รับการฝึกฝนเทคนิคการฉีดจาก Allergan โดยตรง เพื่อให้ทุกคนมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
A: ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-9 เดือน โดยขึ้นกับโครงสร้างผิวของแต่ละคน
A: Skinvive ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยคุณหมอจะเป็นคนประเมินสุขภาพ และปัญหาผิวของแต่ละคน ใครที่มีปัญหาผิวเยอะแนะนำฉีดทุก 1 เดือน ติดกัน 3 ครั้ง แต่ถ้าโครงสร้างผิวค่อนข้างดีอยู่แล้วเว้นที่ 6 เดือนแล้วค่อยกลับมาฉีด หรือรอจนรู้สึกว่าผลลัพธ์เริ่มลดลงก็ได้เช่นกันค่ะ
A: สามารถทำพร้อม Chanels วันเดียวกันได้เลยค่ะ
A: สามารถทำ Ultraformer และฉีด Skinvive ภายในวันเดียวกันได้ แต่ควรพักผิวหลังจากทำ Ultraformer 30 นาทีค่ะ
A: หากฉีด Skinvive แล้วแนะนำให้เว้นระยะฉีด Juvelook และ Sculptra 1 เดือนค่ะ
A : หากต้องการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและลดริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา แนะนำ Juvelook ค่ะ แต่ถ้าอยากให้ใต้ตาดูเต็ม อิ่มฟู สดใสขึ้น การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ
Can't visit the clinic? Send us photos and describe your skin issues online via LINE Official: @megaclinic (include the @). Click the green button below to add us on LINE.
*Results vary depending on individual skin structure.