คนที่ใส่ใจดูแลสุขภาพผิวคงคุ้นเคยกับ “คอลลาเจน” เป็นอย่างดีใช่ไหมครับ เพราะมันช่วยให้ผิวคงความยืดหยุ่นและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ แต่คอลลาเจนก็เป็นโปรตีนธรรมชาติที่สามารถลดลงได้ตามช่วงวัย
เพราะเมื่อเข้าสู่อายุ 30 ร่างกายก็ลดการผลิตคอลลาเจนราว 1.5% ต่อปี ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย และสูญเสียความยืดหยุ่น สร้างความกังวลใจให้ใครหลายคน
ด้วยเหตุนี้ การเสริมคอลลาเจนให้ร่างกายจึงเป็นเรื่องสำคัญครับ จริงๆ แล้วร่างกายเราสามารถสร้างคอลลาเจนจากอาหารโปรตีนสูงอย่างเนื้อสัตว์ ถั่ว หรือผลิตภัณฑ์จากนม แต่ถ้าใครยุ่งจนไม่มีเวลา ในทุกวันนี้ก็มีสองตัวเลือกที่ช่วยได้ คือ การกินอาหารเสริม หรือการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการฟื้นฟูคอลลาเจน ให้เราเลือกได้ตามความสะดวกครับ
อาหารเสริมคอลลาเจนมีชนิดใดบ้าง
ในทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายชนิดที่ผลิตขึ้นเพื่อชดเชยการลดลงของคอลลาเจนตามธรรมชาติ และตอบโจทย์ความสะดวกสบายสำหรับผู้บริโภค ได้แก่
- คอลลาเจนแบบผง คอลลาเจนแปรรูปในรูปแบบผง สามารถชงดื่มกับน้ำ หรือเครื่องดื่มที่ต้องการได้ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลเพื่อไม่เพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกาย
- คอลลาเจนแบบเม็ด และแคปซูล คอลลาเจนในรูปแบบที่สามารถรับประทานได้สะดวก และพกพาง่าย มีผลลัพธ์คล้ายกับการกินวิตามินเสริมที่ต้องพึ่งพาระบบการดูดซึมของร่างกายเพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน
- คอลลาเจนกัมมี่ เป็นรูปแบบที่รับประทานง่าย มีรสชาติอร่อย แต่ก็จำเป็นต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำตาลที่ได้รับในแต่ละวัน เพราะบางยี่ห้อมีการเคลือบน้ำตาล ซึ่งทำให้เพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายได้
- เครื่องดื่มคอลลาเจน เป็นทางเลือกที่สะดวก ทั้งยังช่วยให้เราดื่มน้ำมากขึ้น แต่ควรคำนึงถึงปริมาณน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบ รวมทั้งมีปริมาณคอลลาเจนที่น้อยกว่ารูปแบบผง เม็ด หรือแคปซูล
อาหารเสริมคอลลาเจนมาในรูปแบบของเปปไทด์และกรดอะมิโน ซึ่งได้จากการย่อยคอลลาเจนให้มีอนุภาคเล็กลง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรดูแลสุขภาพระบบย่อยอาหาร ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
หัตถการกระตุ้นคอลลาเจน มีอะไรบ้าง
นอกจากการบำรุงจากอาหารเสริมแล้ว เรายังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วยหัตถการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการกระตุ้นคอลลาเจนตามบริเวณที่ต้องการ ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระชับ และมีสุขภาพดีขึ้น โดยมีหลายวิธีดังนี้ครับ
Juvelook ช่วยเก็บร่องลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
Juvelook เป็นหัตถการที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกของริ้วรอยหรือรอยแตกลายให้ตื้นขึ้น โดยมีส่วนผสมของ HA (กรดไฮยาลูโรนิก) ที่มีขนาดอนุภาคตั้งแต่ 10 ถึง 40 ไมโครเมตร ช่วยเติมร่องลึกและทำให้ผิวเรียบเนียน พร้อมเสริมด้วยไบโอพอลิเมอร์ชีวภาพ หรือ Poly-D,L-lactic acid (PDLLA) ที่ช่วยคงสภาพตัวยาและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูเต็ม กระชับ และอ่อนเยาว์ขึ้นครับ
Juvelook ช่วยอะไรได้บ้าง
- ริ้วรอยเล็กๆ และร่องลึก ที่ฟิลเลอร์ไม่สามารถเติมได้ ให้ดูตื้นขึ้น
- รอยแตกลาย เช่นตำแหน่ง ก้น หน้าท้อง หน้าอก ต้นขา
- รอยพับคอหรือรอยพับหน้าผาก ให้ดูจางลง
- รอยคล้ำหรือ ริ้วเล็กๆ ใต้ตา ให้สว่างดูอิ่มฟูขึ้น
- เป็น Skin Booster ให้กับผิว กระชับรูขุม และปรับสภาพผิวทั่วใบหน้า พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ตัวอย่างรีวิวเคส Juvelook
Juvelook กี่วันเห็นผล
หลังฉีด Juvelook ริ้วรอยเล็กๆ บนผิวจะดูตื้นขึ้นทันที และภายใน 3-4 สัปดาห์ตัวยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ทำให้ผิวดูแน่น และคุณภาพผิวโดยรวมจะดีขึ้น รวมทั้งเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้น ดูอ่อนเยาว์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นครับ
Sculptra กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกของผิว
Sculptra โดดเด่นในเรื่องการคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว มีหน้าที่เป็น Collagen Biostimulator สามารถกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนด้วยตัวเอง โดยมีส่วนประกอบของ Poly-L-Lactic acid (PLLA) ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกของผิว
Sculptra เหมาะกับใคร ช่วยอะไรได้บ้าง
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ให้มีความเฟิร์ม ผิวแน่นมากขึ้น
- ผู้ที่มีอายุ 30 ขึ้นไป ร่างกายมีการสร้างคอลลาเจนน้อยลง การเพิ่มคอลลาเจนจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง และอ่อนเยาว์ขึ้น
- ผู้ที่ผิวขาดการดูแล ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายในด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ผู้ที่ไม่มีเวลาทำหัตถการบ่อยๆ การฉีด Sculptra ช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและคงความยืดหยุ่นได้ในระยะยาว
Sculptra VS Juvelook ต่างกันไหม
Juvelook เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยในจุดเล็กๆ รอยพับ หรือรอยแตกลายให้จางลง
Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับและยืดหยุ่น โดยแพทย์จะฉีดบริเวณกรอบหน้าเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน หากฉีดเดือนละ 1 ครั้ง ต่อเนื่อง 3 เดือน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยหลังจากนี้แม้อนุภาคของ Sculptra จะสลายไป คอลลาเจนที่ยังสะสมอยู่จะช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวในระยะยาว
ทั้ง Sculptra และ Juvelook มีส่วนประกอบที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเช่นกัน โดย PDLLA ใน Juvelook มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่าช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวเฉพาะจุด ส่วน PLLA ใน Sculptra มีโมเลกุลใหญ่กว่า โดดเด่นในเรื่องการยกกระชับผิว หากใครสนใจความแตกต่างระหว่างสองหัตถการนี้ สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
Ultraformer III ยกกระชับผิวพร้อมกระตุ้นคอลลาเจน
Ultraformer III คือนวัตกรรมยกกระชับผิวที่ใช้พลังงาน Micro and Macro Focused Ultrasound (MMFU) ส่งคลื่นความถี่สูงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า โดยพลังงานความร้อน 65–70 องศาเซลเซียส จะถูกปล่อยเป็นจุดเล็กๆ เพื่อให้เนื้อเยื่อหดตัวและผิวกระชับขึ้น ความร้อนยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัดครับ
Ultraformer III เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบไม่รุกล้ำ ไม่มีการผ่าตัด หรือฉีด และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำหัตถการ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง ร่องแก้ม หนังตาตก คิ้วตก ถุงใต้ตา รวมถึงริ้วรอยรอบดวงตา
- ผู้ที่ต้องการสร้างคอลลาเจน Ultraformer III เป็นหัตถการที่ให้ผิวกระตุ้นคอลลาเจนได้เอง โดยไม่ต้องใช้ส่วนประกอบภายนอก
- ผู้ที่อยากชะลอผิว ผู้ใหญ่ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจะเห็นผลลัพธ์ใบหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้น เนื่องจากการผลิตคอลลาเจนใหม่จะช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวได้
Thermage ยกกระชับ สลายไขมัน พร้อมกระตุ้นคอลลาเจน
Thermage (เทอร์มาจ) คือเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการส่งคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ลงลึกถึงชั้นไขมัน กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ด้วยความร้อน ทำให้ผิวเต่งตึง และริ้วรอยดูลดลง พร้อมทั้งช่วยสลายไขมันสะสมและปรับรูปหน้าให้เรียว ผิวดูอ่อนเยาว์ และกระชับขึ้นครับ
Thermage ช่วยอะไร
- เพิ่มการสร้างคอลลาเจน สำหรับผู้ที่อายุมากขึ้น และการสร้างคอลลาเจนเริ่มลดลง
- คงความกระชับของผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์
- ลดริ้วรอยและผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย ช่วยแก้ความกังวลใจปัญหาหน้าเหี่ยว
- ช่วยสลายไขมันสะสม Thermage สามารถสลายไขมันได้ในบริเวณ ใบหน้า หน้าผาก แก้ม เหนียง ลำคอ รวมทั้งกระชับผิวที่หน้าท้องและต้นแขนได้ด้วย
Thermage และ Ultraformer III ต่างกันยังไง
Ultraformer III เป็นหัตถการยกกระชับใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่แก้มและเหนียง หรือกรอบหน้า สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน
Thermage แม้จะมีราคาสูงแต่มีก็ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าทั้งเรื่องการยกกระชับ สลายไขมัน และกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวได้ในหัตถการเดียว โดยจะเริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง 10-20% ทันทีหลังทำ แล้วจะเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 เดือน และคงผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 1 ปี
กินคอลลาเจน และ ทำหัตถการกระตุ้นคอลลาเจน เลือกอะไรดี
การรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนให้ได้ผลชัดเจน ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม โดยเลือกอาหารที่ช่วยการย่อยและดูดซึมสารอาหาร รวมถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอ พร้อมติดตามการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
สำหรับหัตถการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่โดยตรงในชั้นผิวหนัง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงสภาพผิวอย่างเร่งด่วน และไม่กระทบรูปแบบการใช้ชีวิต หมอแนะนำว่าหากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ชัดเจน และมีประสิทธิภาพ การทำหัตถการคือทางเลือกที่ดีที่สุดครับ
ใครอ่านแล้วสนใจอยากทำหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่เมกะคลินิกใกล้บ้านทั้ง 5 สาขาได้แก่
สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำหัตถการไหนอยากให้แพทย์ประเมินผิวก่อนตัดสินใจ หรืออยากจองคิวก็สามารถติดต่อได้ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) หรือกดแอดไลน์ที่ปุ่มสีเขียวด้านล่างนี้ได้เลยครับ