Search
Search
ฟิลเลอร์ Neuramis 5,990.-/cc แอดไลน์เลย!
ฉีดโบท็อก ข้อห้าม ข้อควรทำ มีอะไรบ้างที่เราต้องรู้

เช็คให้ชัวร์ 10 ความเชื่อเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก ข้อห้าม ข้อควรทำ มีอะไรบ้างที่เราต้องรู้

มือใหม่ที่กำลังหาข้อมูลก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก คงจะเคยได้ยินคำรีวิว ข้อห้าม และความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับหัตถการนี้ที่พวกเราในโลกโซเชียลส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ บางอย่างอ่านแล้วก็ดูฟังขึ้น บางอย่างก็ ทำให้ต้องคิดต่อว่า ‘จริงหรือเนี่ย?’ บทความนี้หมอเองเลยรวบรวมไว้ 10 ประเด็นที่ทั้งถูกถกเถียงและถูก หยิบมาพูดบ่อยครั้ง รับรองถ้าอ่านจบแล้วไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนต่ออีกเลยค่ะ

1) ฉีดโบท็อก อันตราย หน้าเบี้ยว ยิ้มแข็ง

ความเชื่อนี้ถือว่ายังไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด จริงอยู่ที่การออกฤทธิ์ของตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน นั้นมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง แต่หากเป็นการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า โอกาสเกิดผลข้างเคียงจากความไม่ชำนาญและการประเมินใช้ปริมาณยาที่ไม่เหมาะสม จนส่งผลให้ไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อหรือแสดงสีหน้าได้ตามปกติ นั้นแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยแน่นอนค่ะ

2) ฉีดโบท็อก ตัวเดียวจบ แก้ได้ครบทุกปัญหารูปหน้า

แม้ว่าโบท็อกจะใช้ฉีดแก้ปัญหารูปหน้าได้ทั้ง ลดกรามหน้าเรียว ลดริ้วรอยหน้าเด็ก ลิฟกรอบหน้า และเก็บทรงจมูก แต่ก็ยังมีความกังวลอื่น ๆ อย่าง ไขมันสะสมแก้มเหนียง ผิวหย่อนคล้อย ร่องยุบ ร่องลึก หน้าไม่เท่ากัน หน้ากลม หน้าตอบซูบ ฯลฯ ที่ต้องใช้หัตถการตัวอื่นในการดูแลถึงจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้เข้ามาประเมินรูปหน้ากับแพทย์ที่คลินิก จะได้คำตอบที่ชัวร์มากที่สุด ว่ากรณีแบบไหน ต้องฉีดหรือทำอะไร เพื่อให้ปัญหานั้นดีขึ้น
ภาพผู้หญิงปรึกษาหมอที่ เมกะ คลินิก

3) ฉีดโบท็อก ยิ่งฉีดเยอะยูนิต ยิ่งดี

หลายครั้งที่หมอเจอกับคำถามว่า ‘บริเวณนี้ต้องฉีดกี่ยูนิต?’ ‘ฉีดแค่นี้จะพอเหรอ?’ หรือ ‘อยากให้หมอฉีด โบท็อกให้เยอะ ๆ ยิ่งเยอะ ยิ่งดี’ ต้องบอกก่อนว่ามัดกล้ามเนื้อแต่ละจุดบนใบหน้ามีลักษณะที่แตกต่างกัน บางจุดเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก บางจุดเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ปริมาณตัวยาที่ใช้ก็จะไม่เท่ากัน แพทย์เลยจะให้ ข้อมูลได้เพียงจำนวนยูนิตที่เหมาะสม ไม่มากไปหรือน้อยเกินไป ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการคำนวณมาแล้วว่า สามารถสร้างผลลัพธ์หลังฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4) ฉีดโบท็อก ต้องฉีดยี่ห้อเดิมตลอด

ไม่จำเป็นเสมอไป หลายคนจะเคยได้ยินมาว่าการฉีดโบท็อก มีข้อห้ามไม่ให้เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีด บ้างว่าจะ ไม่เห็นผล บ้างก็ว่าจะทำให้ร่างกายดื้อโบท็อก แต่การพัฒนาตัวยาโบท็อกไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม ต้องมี ส่วนประกอบสำคัญคือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ สกัดได้จากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) เหมือนกัน
หมอมองว่าเราควรให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานของยี่ห้อโบท็อกที่เลือกฉีด โดยต้องไม่ลืม สอบถามยี่ห้อโบท็อกกับคลินิกก่อนทุกครั้ง ไปจนถึงการเว้นระยะการฉีดโบท็อกแต่ละครั้งให้เหมาะสม อย่างน้อยทุก ๆ 3-4 เดือน
ภาพสแกนยา เช็คยาแท้ตอนฉีดโบท็อก

5) ฉีดโบท็อก ต้องได้ย้ำฟรีในวันติดตามผลทุกครั้ง

ย้ำฟรี คือการที่แพทย์ประเมินว่าผลลัพธ์หลังฉีดยังไม่เป็นไปตามความสามารถที่ตัวยาทำได้อย่างเต็มที่ อธิบายอย่างง่ายคือ เห็นผลแล้วส่วนหนึ่ง จึงให้มีการฉีดโบท็อกเพิ่มเข้าไปอีกในปริมาณที่น้อยกว่าการฉีดครั้งก่อนหน้า แต่การย้ำฟรีจะไม่ได้มีความจำเป็นกับเคสที่มีความเปลี่ยนแปลงชัดเจนเพียงพอแล้ว เช่น ในวันติดตามผลแพทย์พบว่าเนื้อกรามยุบหมดแล้ว ริ้วรอยตื้นขึ้นและไม่รู้สึกตึงหรือแข็งเกินไปเวลาแสดงสีหน้า เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อได้รับตัวยาโบท็อกเกินขนาด

6) ฉีดโบท็อก กับหมอกระเป๋าก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน

การฉีดอะไรก็ตามกับหมอกระเป๋าล้วนเต็มไปด้วยความเสี่ยง หนึ่งเลยคือเป็นการให้บริการทางการแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีเอกสารรับรอง ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ฉีดเป็นแพทย์จริง ๆ หรือไม่ ส่วนโบท็อกที่ใช้ฉีดให้ขาดหลักฐานที่มาที่ไปในการสั่งซื้อที่ชัดเจน
เราไม่มีทางแน่ใจได้ว่าหากเกิดอะไรขึ้นมา อย่างการใช้ยาปลอม การฉีดที่ผิดพลาด หรือผลข้างเคียงที่ เป็นอันตราย แล้วทางหมอกระเป๋าจะให้ความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผิดกันกับคลินิกความงามที่มี มาตรฐานที่จะต้องให้การดูแลทุกเคส ทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด จนมั่นใจว่าลูกค้ารู้สึกพึงพอใจในการให้ บริการแล้ว

7) ฉีดโบท็อก ไม่ควรฉีดบ่อย เดี๋ยวร่างกายจะดื้อโบ

การฉีดโบท็อก มีข้อห้ามหลัก ๆ เลยคือเรื่องของความถี่ในการฉีด เนื่องจากเดิมทีตัวยาจะออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ก่อนสลายหมดเองตามธรรมชาติ แปลว่าระหว่างนั้นมัดกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกจะอยู่ในช่วงถูกลดการทำงานและคลายตัว หากได้รับโบท็อกเข้าไปเพิ่ม ร่างกายก็จะเกิดความสับสนและเริ่มจดจำว่าโบทูลินั่ม ท็อกซิน เป็นสิ่งแปลกปลอมที่ต้องกำจัดทิ้ง จึงสร้างแอนติบอดีขึ้นมาเพื่อต่อต้าน ซึ่งคือที่มาของอาการดื้อโบท็อก (Botox Resistance)
ภาพขณะฉีดโบท็อก

8) หลังฉีดโบท็อก ถ้าเห็นผลช้า แปลว่ายาไม่มีคุณภาพ

จริงแต่ไม่ทั้งหมด โดยอย่าเพิ่งมองข้ามปัจจัยด้านสภาพร่างกายของแต่ละคนในการตอบสนองต่อตัวยาที่แตกต่างกัน พวกเราอาจเคยเห็นรีวิวหลังฉีดโบท็อกริ้วรอย 1 วัน 3 วัน แล้วก็เริ่มตึง แต่นั่นไม่สามารถการันตีได้ว่าถ้าเราฉีดก็จะเห็นผลเร็วแบบนี้ด้วย หมอแนะนำให้รอก่อนอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ใช้ในการออกฤทธิ์ตามปกติของโบท็อกค่ะ

9) หลังฉีดโบท็อก ถ้าหมดฤทธิ์ไว แปลว่ายาไม่มีคุณภาพ

จริงแต่ไม่ทั้งหมดเช่นกัน นอกเหนือจากปัจจัยด้านสภาพร่างกายและการใช้ชีวิตแล้ว ยังมีศัตรูตัวสำคัญที่มีส่วนทำให้โบท็อกสลายไว นั่นคือการทำกิจกรรมที่บริเวณที่ฉีดต้องสัมผัสกับความร้อนสูง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกหลังฉีด ไม่ว่าจะเป็น การทำหัตถการประเภทเลเซอร์ เข้าห้องซาวน่า หรืออบไอน้ำ ฉะนั้นก็ควรต้องงดไปก่อนจะดีที่สุด

10) โบท็อกลดกราม ใครอยากหน้าเรียว ก็ฉีดได้เลย

เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลเมื่อไม่นานมานี้สำหรับการฉีดโบท็อกลดกราม ที่มีหลายคนอยาก ฉีดเพื่อให้หน้าเรียวเล็กลง แต่ที่จริงแล้วมีบางกรณีที่แพทย์มักไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกบริเวณดังกล่าว นั่นคือเคสที่มีรูปหน้าค่อนข้างตอบ แก้มตอบ โหนกแก้มสูง หรือไขมันแก้มน้อยอยู่แล้วเป็นทุนเดิม การฉีด โบท็อกลดกรามเข้าไปอีกจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูซูบ ไม่ได้เรียวสวยเป็นวีเชฟหรือรูปไข่แบบที่เข้าใจกันแต่แรก
รีวิวโบท็อกลดกราม MEGA CLINIC
เป็นยังไงกันบ้างคะกับทั้ง 10 ข้อที่ได้อ่านมา หมอหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเราที่กำลังตัดสินใจฉีด โบท็อกกันอยู่ อย่างไรก็ตามหัตถการนี้จะไม่ได้มีความน่ากลัวหรือเป็นอันตรายเลย เพียงแค่เลือกใช้บริการ คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือทั้งด้านมาตรฐานความปลอดภัย ใช้ยาแท้ตรวจสอบได้แน่นอน รวมถึงมีทีมแพทย์ ประสบการณ์สูงพร้อมดูแล
หากใครสนใจอยากนำความกังวลมาปรึกษากับแพทย์ที่เมกะคลินิก ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถทักเข้า มาสอบถามเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่แอดมินและจองคิวแพทย์ล่วงหน้าทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) หรือกดแอดไลน์ที่ปุ่มสีเขียวด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ