Prevent 4 Skin Problems That Come With the Rain

This is the season of change with very unstable weather, causing our skin to face many air pollution problems, whether it is humidity, temperature changes, or germs that may be hidden in the rain. During the rainy season, girls like us must pay more attention and take care of our skin during this time. Otherwise, our well-cared-for skin may be ruined at this time. Today, the doctor will tell you 4 skin problems that often occur during the rainy season and how to prevent them. Skin problems that come with the rain Skin inflammation, rashes Rainwater that falls on the face is not just ordinary water, but also contains dust and various chemicals. When these things come into contact with our skin, they will accumulate and remain, combined with the humidity from the rain, causing skin irritation and inflammation. Dull skin During the rainy season, when the sky is cloudy, many people may mistakenly think that the sun is not strong, so they neglect to take care of and protect their skin from UV rays. However, these UV rays can still pass through the atmosphere and harm our skin without realizing it, causing dark and damaged skin or even freckles and melasma. Oily face During the rainy season, the humidity in the air is high, causing the sebaceous glands to produce more oil than usual, causing the pores to expand, making the face oily and causing other skin problems. Acne is easy to occur Acne is a common problem during the rainy season. It is a result of the increased oil on the skin during this time. Due to high humidity, oily pores are a breeding ground for bacteria, leading to clogged pores, inflamed acne and rashes around the face. These skin problems that occur in the rainy season are caused by weak skin that cannot cope with changing weather conditions, resulting in fragile skin and these symptoms occurring more easily than those with healthy skin. Weak facial skin is caused by weak skin or sensitive, easily irritated skin, which is a skin condition that can occur at any age […]
Crow's Feet and Aging Lines: Proven Methods for Smoother Skin

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้าก็มากขึ้นตามไปด้วย แต่หนึ่งสิ่งที่บ่งบอกถึงความแก่ได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือ “ตีนกา” ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนมักเผชิญไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็ตาม บทความนี้จะพาทุกคนมาดูวิธีลดตีนกา ให้หน้าเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเป็นหนุ่ม สาว อีกครั้ง ตีนกาคือ ตีนกา จะมีลักษณะเส้นขีดๆ บริเวณหางตาเป็นสัญญาณที่บอกถึงการเสื่อมสภาพของผิว จะเห็นตีนกาชัดขึ้นเมื่อเราหัวเราะหรือยิ้ม โดยตีนกาจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รอยตีนกาชนิดตื้น จะเกิดได้ในบริเวณที่โดนแดดมากๆ ทำให้ผิวบนชั้นหนังกำพร้าบางกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยตีนกาตื้นๆ ขึ้นมา รอยตีนกาชนิดลึก เกิดจากโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้มีความหย่อนคล้อย และรอยตีนกาตื้นๆ ที่ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานจนทำให้เกิดเป็นรอยตีนกาที่ลึก ตีนกาเกิดจากอะไร อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของเราก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง คอลลาเจนในร่างกายซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวถูกผลิตน้อยลง เมื่อคอลลาเจนลดลง ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยตีนกาตามมา การแสดงอารมณ์ การแสดงสีหน้าในชีวิตประจำวัน ถือเป็นการแสดงออกทางอารมณ์ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นการยิ้มหยีตา การหัวเราะ หรือการเลิกคิ้ว ทำให้ผิวเกิดการพับ เมื่อระยะเวลาผ่านไปผิวจะหดตัวและเกิดเป็นรอยลึกลงไป ปัจจัยภายนอก เช่น การโดนแดด การสูบบุหรี่ แม้กระทั่งความเครียด สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีในการก่อให้เกิดรอยตีนกา วิธีลดตีนกา เปลี่ยนหน้าแก่ให้ดูอ่อนเยาว์ ครีมลดรอยตีนกา วิธีการทาครีมเพื่อลดรอยตีนกา เป็นวิธีการง่ายๆที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน […]
Lip Filler: How Long for Results? Swelling and Duration Explained!

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการปรับแต่งริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม เป็นทรงชัด ด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (กรดไฮยาลูรอนิก) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและมีความคงรูป อย่างไรก็ตามฟิลเลอร์ที่ถูกฉีด เข้าไปจะยังไม่สามารถเซตตัวจนกลืนกับผิวบริเวณริมฝีปากได้ในทันที บทความนี้หมอจะมาให้คำตอบว่า ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันเข้าที่ บวมนานไหม แต่ละคนต้องมีวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างไรบ้างค่ะ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมนานกี่วัน โดยทั่วไปแล้วหลังฉีดปากเสร็จทันที เราจะพอเริ่มเห็นรูปทรงของริมฝีปากที่เปลี่ยนไปได้บ้าง แต่ยังดูไม่ ค่อยชัดเจนเนื่องจากอาการบวมที่จะมีลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละเคส ขึ้นอยู่กับตำแหน่งบนริมฝีปากที่ แพทย์ทำการแทงเข็มฟิลเลอร์ จำนวน cc ที่ฉีด และปัจจัยด้านสภาพร่างกายของแต่ละคนอาการบวมที่ริมฝีปากจะหายไปได้เองในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 7-14 วัน ส่วนเนื้อฟิลเลอร์จะยังคงต้อง ใช้เวลาในการเซตตัวกับเนื้อปากอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งก็เป็นการตอบข้อสงสัยได้แล้วว่าฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเข้าที่ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง นอกเหนือจากอาการบวมแล้ว ผู้ที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ปากไปอาจรู้สึกตึง ๆ ตุ่ย ๆ บริเวณที่ฉีดได้บ้าง แน่นอน ว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงรอยเข็มรอยช้ำที่ใช้เวลาไม่นานก็จางหายไปได้เหมือนกันก่อนฟิลเลอร์ที่ฉีดไปจะเซตตัวเข้าที่ดี หมอมีคำแนะนำ 7 ข้อ ให้เราปฏิบัติตามเพื่อให้ทั้งอาการบวมตึง และรอยช้ำเข็มหายไวขึ้น ไปจนถึงช่วยป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เสียทรงจากเดิมอีกด้วย ดังนี้ค่ะ ให้งดนวด […]
Ultraformer III vs Thermage: Which One is Best for Face Lifting and Tightening?

สองนวัตกรรมยกกระชับหน้าที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ หากมีใครกำลังต้องการดูแลผิวหย่อนคล้อย ปรับหน้า เด็กให้ดูอ่อนเยาว์ โดยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว นั่นก็คือ Ultraformer III (อัลตร้า ฟอร์มเมอร์ ทรี) และ Thermage (เทอร์มาจ)ซึ่งทั้งสองหัตถการเป็นเครื่องยิงพลังงานเหมือนกัน ช่วยเรื่องยกกระชับ เรื่องหน้าเด็ก เหมือนกัน แต่มี อะไรที่แตกต่างกันบ้าง แล้วปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบไหนควรทำอะไร บทความนี้หมอได้รวบรวมข้อมูล มาให้พวกเรานำเอาไปใช้ประกอบการตัดสินใจกันแล้วค่ะ คลื่นพลังงานที่ใช้ Ultraformer III ใช้คลื่นพลังงาน Focus Ultrasound ประเภทเดียวกับที่ใช้ในการตรวจครรภ์ แต่มีการ พัฒนาเทคโนโลยีการปล่อยพลังงานที่เรียกกว่า Micro and Macro Focused Ultrasound หรือ MMFU ส่งผลให้คลื่นมีความถี่และความเข้มข้นสูง สามารถปล่อยพลังงานความร้อนอุณหภูมิประมาณ 65-70°C เป็นจุดเล็ก ๆ กระจายเข้าถึงใต้ผิวหนังชั้นลึก SMAS ชั้นผิวเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่ง ความร้อนคือตัวการทำให้ชั้นผิวเดิมที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัวและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ใหม่ขึ้นมาทดแทนส่วนที่เสื่อมสภาพไป Thermage ก็ใช้หลักการยกกระชับหน้าด้วยคลื่นพลังงานความร้อนเช่นเดียวกัน แต่เป็นเทคโนโลยีคลื่น วิทยุความถี่สูง (Monopolar Radio […]