รูปหน้าบานใหญ่ คืออุปสรรคสำคัญของคนที่ต้องการมีใบหน้าเรียวสวย หน้ารูปไข่ หน้าวีเชฟ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราจะเลือกทำหัตถการอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว หมอจะขอยกให้การฉีดโบลดกรามเป็นหนึ่งคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเกือบร้อยทั้งร้อยต่างพอใจในผลลัพธ์หลังฉีด
แต่ก่อนจะตัดสินใจก็ต้องทำความเข้าใจหัตถการนี้ให้ดีเสียก่อน ว่าตัวยาโบท็อกมีการทำงานกับใบหน้าของเราอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงที่ได้เป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ ปัญหาที่เรามีนั้นเหมาะกับการฉีดโบลดกรามหรือไม่ ว่าแล้วก็ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (Botulinum Toxin Type A) หรือที่เราคุ้นหูกันมากกว่าในชื่อ โบท็อก จะออกฤทธิ์โดยตรงกับการทำงานของระบบประสาทในเซลล์กล้ามเนื้อ ส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อคลายตัว ถูกงดการใช้งานชั่วคราว และมีขนาดเล็กลงในที่สุด
หลังฉีดให้รอตัวยาโบท็อกออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงค่ะ
ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ก่อนที่ตัวยาจะค่อย ๆ สลายหมดเองตามธรรมชาติ เร็วช้าขึ้นอยู่กับร่างกายและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนเป็นหลัก จากนั้นสามารถฉีดโบลดกรามซ้ำอีกได้
อย่างที่หมอได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ว่าการฉีดโบลดกรามนั้นเป็นหัตถการประเภทฉีดที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายนั้นต่ำมาก ที่เมกะคลินิกเองเลือกใช้เฉพาะโบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ สั่งซื้อเองโดยตรงจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย
ที่นี่เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการประเมินรูปหน้า ทำหัตถการ ไปจนถึงการนัดติดตามผลลัพธ์หลังฉีด สามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์และเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์ได้ทุกคนแน่นอน
อีกหนึ่งความสะดวกของการฉีดโบท็อกคือไม่ได้มีข้อห้ามอะไรเป็นพิเศษในช่วงเตรียมตัวก่อนมาฉีด ทั้งนี้ถ้าใครที่กังวลรอยเข็มรอยช้ำหายช้า อาจต้องงดการรับประทานอาหารเสริมหรือใช้ยาบางชนิด ได้แก่
ปัจจัยหลักที่มีผลทำให้ตัวยาโบท็อกสลายไปบ้างในช่วงแรกที่เพิ่งฉีดคือ การสัมผัสโดยตรงกับความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน
สำหรับความร้อนทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานชาบู ปิ้งย่าง ใช้ไดร์เป่าผม และอาบน้ำอุ่น ยังคงทำได้ตามปกติ แต่แนะนำให้งดกิจกรรมที่ต้องสัมผัสความร้อนสูง ดังต่อไปนี้
หลังฉีดโบลดกรามอาจรู้สึกเมื่อยขณะพูดหรือเคี้ยวอาหารได้บ้าง โดยเป็นอาการปกติไม่น่ากังวลอะไร และจะดีขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ ส่วนการยิ้มเกร็ง ยิ้มไม่สุด นั้นมีโอกาสเกิดได้น้อยมาก ๆ แต่ก็หายเองได้เช่นกัน
สรุปก่อนจากกัน การฉีดโบลดกราม เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย เหมาะกับผู้ที่มีความกังวลหน้าบาน หน้าเหลี่ยม จากกล้ามเนื้อกรามที่มีขนาดใหญ่ แต่ถ้าหากเรามีปัญหาไขมันสะสมตามแก้มและเหนียงร่วมด้วย แพทย์จะแนะนำให้ฉีดควบคู่กับแฟตสลายไขมัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
หากสนใจฉีดโบลดกราม หรืออยากเข้ามารับการประเมินกับแพทย์ที่เมกะคลินิก สามารถจองคิวล่วงหน้าทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) โดยกดแอดไลน์ที่ปุ่มสีเขียวด้านล่างนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ