หลายคนพออายุเข้าใกล้เลข 3 หรืออยู่ในช่วงวัย 30+ แล้ว ก็คงจะต้องมีความกังวลเรื่องใบหน้ากันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยหรือความเหี่ยวย่นที่เริ่มถามหา หน้าเริ่มตอบซูบ ผิวหย่อนคล้อย ริมฝีปากจากที่เคยอวบอิ่มก็ดูลีบแบนลง หนังตาตก คิ้วตก และอีกมากมายหากใครกำลังมองหาวิธีทำให้หน้าเด็ก หรือกำลังคิดว่าจะดูแลตัวเองอย่างไรให้สวยขึ้น การเข้าคลินิกก็เป็นตัวเลือกสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัดเจนและมีความปลอดภัยสูงเมื่อเลือกเข้ารับบริการที่คลินิกที่มีมาตฐาน ซื่อสัตย์ จริงใจ น่าเชื่อถือวันนี้หมอขอหยิบเอา 5 หัตถการสำหรับคนอยากหน้าเด็ก ซึ่งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเมกะคลินิกเป็นผู้แนะนำเอง มาเล่าให้อ่านกันคร่าว ๆ โดยถ้าเรารู้สึกสนใจหัตถการไหนเป็นพิเศษก็สามารถกดปุ่มเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมกันต่อได้ด้วยค่ะ ฉีดโบท็อกริ้วรอย นับเป็นวิธีทำให้หน้าเด็กที่ทุกคนต้องคุ้นหู เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โบท็อกริ้วรอยถ้าอธิบายง่าย ๆ คือการฉีดโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานลงชั่วคราวเมื่อแพทย์นำโบท็อกมาฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อที่มีปัญหาริ้วรอยจากการขยับบ่อย ๆ ได้แก่บริเวณหน้าผาก หางตา และตรงกลางระหว่างคิ้วทั้งสองข้าง ผ่านไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ ตัวยาก็จะออกฤทธิ์เต็มที่จนกล้ามเนื้อไม่ขยับหรือขยับได้น้อยมาก ๆ จึงเป็นผลให้ริ้วรอยหายไปนั่นเอง ข้อดีของการฉีดโบท็อก ประสิทธิภาพสูง เห็นผลชัด ลดริ้วรอยได้จริง หมอแนะนำให้เลือกฉีดโบท็อกแท้กับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น โดยคลินิกต้องให้ตรวจสอบยาแท้ก่อนฉีดเสมอ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-4 เดือน

แดดที่แรงจัดในบ้านเราคงทำให้ใครหลายคนหลีกเลี่ยงที่จะไม่เจอกับแสงอาทิตย์แทบไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นบางคนอยู่กลางแจ้งเพียงไม่นาน ก็ต้องเจอกับปัญหาผิวกายผิวหน้าหมองคล้ำไปด้วยอีก ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวหน้าหมองคล้ำ คือ สภาพผิวที่ร่างกายมีการสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมามากเกินไป โดยตามผิวหนังแต่ละบริเวณก็ไม่ได้สร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นพร้อม ๆ กัน ในปริมาณเท่า ๆ กัน จึงเป็นที่มาของปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งบนผิวกายและผิวหน้า ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดจาก ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้มีแค่แสงแดดเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึง สภาพอากาศ มลภาวะ ในชีวิตประจำวัน ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ จากอายุที่มากขึ้น ดื่มน้ำน้อย ไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์ ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ อดนอน เครียด ทุกปัจจัยล้วนเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมได้ เราจึงต้องพึ่งพาตัวช่วยอื่น ๆ ในการฟื้นฟูสภาพผิวหน้าหมองคล้ำ อย่างสกินแคร์ หรือการเข้าคลินิกทำทรีตเมนต์บำรุงผิว และหัตถการประเภทงานผิว ผิวหน้าหมองคล้ำ ใช้อะไรก็ไม่ขาว กฎข้อสำคัญของการดูแลผิวด้วยสกินแคร์ให้เห็นผล คือ ความสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งกว่าจะรู้สึกได้ถึงสภาพผิวที่กระจ่างใสขึ้น และตราบใดที่ในชีวิตประจำวันเรายังเจอกับทั้ง 5 ปัจจัยเสี่ยงพาผิวกลับไปคล้ำเสียอีก ก็ยิ่งเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมไม่ขาวสักทีถัดมาเป็นการเข้าคลินิกฉีดหน้า ที่เป็นตัวเลือกยอดฮิตของสาว ๆ

คอลลาเจน โปรตีนชื่อคุ้นหูที่ร่างกายทุกคนสามารถสร้างได้เองและเป็นชนิดของโปรตีนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในร่างกายถึง 30% คอลลาเจนมีหน้าที่สำคัญไม่เพียงแค่ต่อผิวพรรณแต่ยังช่วยให้เซลส์เจริญเติบโต ช่วยให้เลือดแข็งตัวเพื่อป้องกันการสูญเสียเลือด ไปจนถึงช่วยปกป้องอวัยวะภายในอย่างกล้ามเนื้อ ไขข้อ กระดูกอ่อน หลอดเลือด เส้นเอ็น และเนื้อเยื่ออื่น ๆ ผิวหน้าเหี่ยว เกี่ยวอะไรกับคอลลาเจน? ประโยชน์ของคอลลาเจนนั้นมีมากมาย อีกทั้งยังเป็นตัวกำหนดว่าผิวหน้าและผิวกายของเราเริ่มเสื่อมสภาพแล้วหรือยังด้วยจริงอยู่ที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนขึ้นเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในส่วนนี้จะเริ่มถดถอยลง คอลลาเจนเกิดใหม่มีจำนวนน้อยลงและมีคุณภาพต่ำบทบาทการดูแลความแข็งแรงยืดหยุ่นให้กับโครงสร้างชั้นผิวก็จะเริ่มแย่ลง จากนั้นจะทยอยส่งสัญญาณต่าง ๆ ออกมาให้สังเกตเห็นได้ผ่านผิวหน้าและผิวกาย ไม่ว่าจะเป็น ผิวหน้าหย่อนคล้อย เมื่อผิวขาดความยืดหยุ่นก็จะหย่อนลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก เกิดเป็นผิวห้อย ย้อย เห็นได้ชัดตามแนวกรอบหน้าที่ดูไม่กระชับ ไม่เฟิร์ม เริ่มมีริ้วรอยทั้งร่องตื้นและร่องลึก ปัญหาหน้าเหี่ยวจากริ้วรอย รอยย่น ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะตามบริเวณที่มีการขยับบ่อย เช่น หางตา หน้าผาก หว่างคิ้ว จมูก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใบหน้าดูโทรมและดูมีอายุ จากทั้งปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยและปัญหาหน้าเหี่ยวจากริ้วรอย ส่งผลให้ใบหน้าภาพรวมดูแก่และเหนื่อยโทรม ไร้ชีวิตชีวา หน้าดุ ดูไม่เป็นมิตร จนบั่นทอนความมั่นใจของใครหลายคนที่อาจยังไม่ได้มีอายุมากขนาดนั้นด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เลยเถิดไปถึงระยะที่สายเกินแก้