ฉีดแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน? จริงอยู่ที่ว่าหลังฉีดแฟตไปได้สักพัก จนตัวยาออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ไขมันสะสม จำนวนหนึ่งจะถูกสลายออกไปแบบถาวรไม่กลับมาอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเราดูแลตัวเองไม่ดีพอ เช่น ไม่ค่อยออกกำลังกาย แถมยังชอบกินอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และไขมันอยู่เยอะจนเป็นนิสัยเคยตัว ไขมัน ใหม่ก็มีโอกาสเข้ามาสะสมได้เช่นกันนั่นแปลว่าผลลัพธ์หลังฉีดแฟตอาจปลิวหายหรือสูญเปล่าไปเลย ซึ่งไม่ใช่ความบกพร่องไม่เห็นผลของ ตัวยา แต่กลับเป็นเพราะพฤติกรรมการคุมไขมันสะสมของเราเอง แจกวิธี ฉีดแฟตยังไง ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ฉีดแฟต ควรฉีดบ่อยแค่ไหน ปกติแล้วการฉีดแฟตนั้นเป็นหัตถการสำหรับคนที่อยากฉีดหน้าเรียว มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดตาม ร่างกายที่กำจัดออกเองได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น แก้ม เหนียง ต้นแขนต้นขาใหญ่ หน้าท้องเผละ รักแร้ปลิ้น เป็นต้นการฉีดแฟตแต่ละครั้ง ถ้าเป็นตัวยาแฟตสูตร Lipo-S ของเมกะคลินิก สามารถออกฤทธิ์สลายไขมันสะสม ไปได้ในปริมาณ 10-20% ของไขมันเดิมที่มี แพทย์จึงมักแนะนำคอร์สฉีดแฟตที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลไป แบบเคสต่อเคส โดยคำนวณจากการประเมินรูปหน้าอย่างละเอียดก่อนในวันที่เข้ามาปรึกษาในหนึ่งครั้งของการเข้ามาฉีดแฟต แพทย์จะฉีดตัวยาแฟตเข้มข้นไม่ผสมน้ำเกลือให้ 4-8 เข็ม สำหรับ บริเวณใบหน้า และ 8-18

อีกหนึ่งสัญญาณความแก่ที่จะปรากฎขึ้นบนใบหน้าเมื่อเราอายุมากขึ้นคือ หนังตาตก ซึ่งเป็นอาการที่ ผิวหนังตั้งแต่ช่วงคิ้วถึงเปลือกตามีลักษณะหย่อนคล้อยลงมา ถ้าเป็นน้อยก็จะแค่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดู มีอายุ เพราะผิวขาดความกระชับจากการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันใต้ผิว แต่ถ้าเป็นหนักหน่อยก็อาจ ส่งผลให้หนังตาตกลงมาปิดบังการมองเห็น จึงกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตและทำลายความมั่นใจ หากเราปล่อยให้ปัญหาหนังตาตกเลยเถิดไปถึงขั้นที่มันเริ่มรบกวนการมองเห็นของสายตา ก็จะเหลือ เพียงแค่การผ่าตัดศัลยกรรมเก็บหนังตา ยกหางตา ที่เป็นวิธีแก้ที่ให้ผลลัพธ์คงทนถาวรที่สุด กรณีที่ไม่ได้ เกิดผลกระทบหลังผ่าตัดอื่น ๆ ตามมาแต่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของวงการแพทย์ความงามในปัจจุบัน ตอนนี้เราก็เลยมีวิธีป้องกันปัญหาหนังตา ตกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการทำหัตถการประเภทเครื่องยิงพลังงานยกกระชับผิวเฉพาะจุดบริเวณรอบดวงตา หรือ Ultraformer IIIบทความแนะนำ Ultraformer IIIดูเด็กลงได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด Ultraformer III ยกกระชับหางตา Ultraformer III ช่วยอะไร ปกติเราจะพอคุ้นกันว่า Ultraformer III เป็นเครื่องมือที่ใช้ยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ให้ชั้นผิว โดยการปล่อยพลังงานความร้อนคลื่นความถี่เข้มข้นสูง (Micro & Macro Focused Ultrasound หรือ MMFU) ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS

มือใหม่ที่กำลังหาข้อมูลก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก คงจะเคยได้ยินคำรีวิว ข้อห้าม และความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับหัตถการนี้ที่พวกเราในโลกโซเชียลส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ บางอย่างอ่านแล้วก็ดูฟังขึ้น บางอย่างก็ ทำให้ต้องคิดต่อว่า ‘จริงหรือเนี่ย?’ บทความนี้หมอเองเลยรวบรวมไว้ 10 ประเด็นที่ทั้งถูกถกเถียงและถูก หยิบมาพูดบ่อยครั้ง รับรองถ้าอ่านจบแล้วไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนต่ออีกเลยค่ะ 1) ฉีดโบท็อก อันตราย หน้าเบี้ยว ยิ้มแข็ง ความเชื่อนี้ถือว่ายังไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด จริงอยู่ที่การออกฤทธิ์ของตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (Botulinum Toxin Type A) นั้นมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง แต่หากเป็นการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า โอกาสเกิดผลข้างเคียงจากความไม่ชำนาญและการประเมินใช้ปริมาณยาที่ไม่เหมาะสม จนส่งผลให้ไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อหรือแสดงสีหน้าได้ตามปกติ นั้นแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยแน่นอนค่ะ 2) ฉีดโบท็อก ตัวเดียวจบ แก้ได้ครบทุกปัญหารูปหน้า แม้ว่าโบท็อกจะใช้ฉีดแก้ปัญหารูปหน้าได้ทั้ง ลดกรามหน้าเรียว ลดริ้วรอยหน้าเด็ก ลิฟกรอบหน้า และเก็บทรงจมูก แต่ก็ยังมีความกังวลอื่น ๆ อย่าง ไขมันสะสมแก้มเหนียง ผิวหย่อนคล้อย ร่องยุบ

‘ทำไมหน้าโทรมจัง ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้ไปทำอะไรมา?’ เพราะสาเหตุของปัญหาหน้าโทรมนอกจากรูปแบบ การใช้ชีวิตและโรคประจำตัวแล้ว ก็ยังมีความเกี่ยวข้องไปถึงโครงสร้างรูปหน้าของเราเองด้วย บทความนี้ หมอขอยกตัวอย่าง 4 ปัญหารูปหน้ายอดฮิต ที่ทำให้หน้าโทรม หน้าแก่ ขาดความมีชีวิตชีวา พร้อมวิธีแก้ไข ที่สะดวกและเห็นผลชัด นั่นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ Neuramis ปรับรูปหน้าค่ะ มาดู 4 ปัญหาหน้าโทรม และวิธีแก้ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ปัญหาที่ 1 ใต้ตาดำ คล้ำ ลึก เหมือนคนอดนอน ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้ใต้ตาดำ คล้ำ ลึก เพราะว่ามีอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะทางพันธุกรรม หากใครมีโครงสร้างของกะโหลกศีรษะที่มีช่วงเบ้าตายุบกว่าปกติ ก็จะเป็นเหตุผลหลักที่คน ๆ นั้นมีเบ้าตาที่ลึก โหล แม้พยายามใช้เมคอัพปกปิดก็ยังทำได้ยาก โรคภูมิแพ้ กับการมีเลือดคั่งอยู่เยอะในหลอดเลือดดำใกล้ชั้นผิวหนังบริเวณใต้ตาที่มีความบอบบาง จนเห็นสีคล้ำ ๆ ของเส้นเลือดได้ชัด ยิ่งช่วงไหนที่โรคกำเริบ ใต้ตาก็จะยิ่งคล้ำมาก พฤติกรรมชอบขยี้ตา ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย