ออฟฟิศซินโดรม รักษายังไง? คำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อเจอกับอาการปวดตึงบริเวณคอ บ่า ไหล่ จากการนั่งทำงานหน้าคอมเป็นเวลานาน พักก็แล้ว ยืดเส้นก็แล้ว แต่อาการกลับยังไม่ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันการฉีดโบท็อก (Botox) เพื่อคลายกล้ามเนื้อเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการเรื้อรัง เพราะเห็นผลไว ชัดเจน และมีความปลอดภัยสูงภายใต้การดูแลของแพทย์
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า คนวัยทำงานกว่า 70% มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานเกิน 4 ชั่วโมงต่อวัน รวมถึงผู้ที่มีท่านั่งทำงานไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์ เช่น นั่งหลังค่อม ไม่ปรับความสูงของจอหรือเก้าอี้ให้เหมาะสม พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่า ไหล่ ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง และเกิดอาการปวดตึงเรื้อรังได้ในระยะยาว
อาการของออฟฟิศซินโดรมสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ โดยอาการหลัก ๆ ที่พบได้บ่อย ได้แก่
Botox Office Syndrome คือการฉีดตัวยาโบทูลินัม ท็อกซิน ชนิด เอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าที่กล้ามเนื้อเฉพาะจุด เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งเรื้อรังซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดตึงในกลุ่มคนที่มีภาวะออฟฟิศซินโดรม เช่นบริเวณ คอ บ่า ไหล่ ฯลฯ รวมถึงอาการไมเกรนบางประเภท โดยไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงาม
โบท็อกทำงานโดยยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทที่เป็นตัวกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว เมื่อตัวยาออกฤทธิ์ที่บริเวณกล้ามเนื้อเป้าหมาย จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัวลง ส่งผลให้อาการปวดตึงลดลงตามไปด้วย
ในกรณีของไมเกรนเรื้อรัง โบท็อกยังช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อรอบศีรษะซึ่งไปกระตุ้นเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการปวดศีรษะ ทำให้อาการบรรเทาลงทั้งในความถี่และความรุนแรง
แม้จะใช้ตัวยาชนิดเดียวกัน แต่จุดประสงค์และตำแหน่งการฉีดต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตำแหน่งที่สามารถฉีดได้ ได้แก่
การรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยการฉีดโบท็อก มักใช้ตัวยาในปริมาณ 100–200 ยูนิต ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและความรุนแรงของอาการ โดยแพทย์จะประเมินปริมาณที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด
หลังฉีดโบท็อกไปจะเริ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อค่อย ๆ คลายตัวและจะเห็นผลอาการปวดกล้ามเนื้อลดลงชัดเจนเต็มที่ภายใน 2–4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนและตำแหน่งที่ฉีด
ผลการคลายกล้ามเนื้อจากโบท็อกจะอยู่ได้นานประมาณ 3–4 เดือน ก่อนที่ตัวยาจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติของร่างกาย โดยระยะเวลาการออกฤทธิ์อาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
โบท็อกออฟฟิศซินโดรมไม่ใช่การรักษาให้หายได้ถาวร แต่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากยังคงพฤติกรรมเดิม เช่น นั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ ไม่ขยับตัว หรือไม่ปรับสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม อาการปวดก็สามารถกลับมาได้อีก จึงควรดูแลตัวเองควบคู่กับการฉีดโบท็อกซ้ำได้เมื่อตัวยาหมดฤทธิ์ (ประมาณ 3–4 เดือน) เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและยั่งยืน
นอกจากช่วยลดอาการปวดแล้ว โบท็อกออฟฟิศซินโดรมยังส่งผลดีด้านรูปลักษณ์ เช่น เมื่อฉีดบริเวณสะบัก กล้ามเนื้อที่เคยนูนก็จะเล็กลง ทำให้ดูหลังแบน บ่าดูเล็กลง และการฉีดบริเวณต้นคอหรือไหล่ก็ยังช่วยให้ช่วงคอที่เคยดูหนาหรือตันดูเรียวยาวขึ้น ได้สัดส่วนรับกับกรอบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
อ่านต่อได้ที่: คอสั้น ไหล่หนา ฉีดโบท็อกบ่าช่วยได้
ช่วงแรกหลังฉีดโบท็อกควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่ โดย
หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงบางชนิด หรืออยู่ระหว่างรับยาบางประเภท ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำการรักษา
เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และสำหรับคลินิกที่เลือกไปใช้บริการ ก็ต้องมั่นใจได้ว่า
วิธีป้องกันอาการออฟฟิศซินโดรมในระยะยาวที่ยั่งยืนที่สุด คือการปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการรักษา เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ที่โต๊ะทำงานของเราเอง
นอกจากการปรับสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมระหว่างทำงานแล้ว การดูแลร่างกายโดยรวมก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน
สำหรับการฉีดรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อออฟฟิศซินโดรม แนะนำเป็นโบท็อกเหมาขวด 100 ยูนิต หรือ 200 ยูนิต ตามความเหมาะสมจากการประเมินของแพทย์ ซึ่งที่ MEGA CLINIC มียี่ห้อโบท็อกชั้นนำระดับโลกให้เลือกฉีดด้วยกันทั้งหมด 6 ยี่ห้อ ได้แก่
หากใครที่มีอาการปวดตึงเรื้อรัง บ่าแข็ง ไหล่ตึง หรือรู้สึกว่าอาการออฟฟิศซินโดรมเริ่มรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับคลินิกที่น่าเชื่อถือนับเป็นก้าวแรกที่สำคัญ
ทีมแพทย์ของเราจะช่วยประเมินอาการ วิเคราะห์จุดที่มีปัญหา และให้คำแนะนำว่าควรฉีดโบท็อกหรือไม่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการปรึกษาเบื้องต้น
การนวดหรือทำกายภาพบำบัดช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อชั่วคราว แต่ต้องทำต่อเนื่องบ่อยครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน ส่วนโบท็อกช่วยคลายกล้ามเนื้อได้อย่างตรงจุดและอยู่ได้นานหลายเดือน เหมาะกับผู้มีอาการเรื้อรังหรือปวดแบบลึก ๆ ที่นวดไม่ถึง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป
ควรงดกด นวด หรือคลึงแรง ๆ บริเวณที่ฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นจึงสามารถนวดได้ตามปกติ โดยควรแจ้งหมอนวดให้เลี่ยงบริเวณที่เคยฉีดโบท็อกไว้
เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วง 3–7 วันแรก โดยเฉพาะในคนที่มีกล้ามเนื้อหนาหรือแข็งมาก เมื่อโบท็อกเริ่มออกฤทธิ์ มัดกล้ามเนื้อจะเริ่มคลาย ร่างกายอาจต้องปรับตัว จึงทำให้รู้สึกเมื่อยหรือตึง ๆ ได้บ้างในช่วงแรก ซึ่งเป็นเพียงอาการชั่วคราว และมักจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
MEGA CLINIC มี 5 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ได้แก่
สามารถทักสอบถามเจ้าหน้าที่แอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดหัตถการ และสำรองคิวล่วงหน้าได้ทาง LINE Official: @megaclinic (มี @) โดยคลิกที่ปุ่มแอดไลน์สีเขียวด้านล่างหน้าจอได้เช่นกัน
