อีกหนึ่งสัญญาณความแก่ที่จะปรากฎขึ้นบนใบหน้าเมื่อเราอายุมากขึ้นคือ หนังตาตก ซึ่งเป็นอาการที่ ผิวหนังตั้งแต่ช่วงคิ้วถึงเปลือกตามีลักษณะหย่อนคล้อยลงมา ถ้าเป็นน้อยก็จะแค่ทำให้ใบหน้าโดยรวมดู มีอายุ เพราะผิวขาดความกระชับจากการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันใต้ผิว แต่ถ้าเป็นหนักหน่อยก็อาจ ส่งผลให้หนังตาตกลงมาปิดบังการมองเห็น จึงกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตและทำลายความมั่นใจ หากเราปล่อยให้ปัญหาหนังตาตกเลยเถิดไปถึงขั้นที่มันเริ่มรบกวนการมองเห็นของสายตา ก็จะเหลือ เพียงแค่การผ่าตัดศัลยกรรมเก็บหนังตา ยกหางตา ที่เป็นวิธีแก้ที่ให้ผลลัพธ์คงทนถาวรที่สุด กรณีที่ไม่ได้ เกิดผลกระทบหลังผ่าตัดอื่น ๆ ตามมาแต่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของวงการแพทย์ความงามในปัจจุบัน ตอนนี้เราก็เลยมีวิธีป้องกันปัญหาหนังตา ตกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการทำหัตถการประเภทเครื่องยิงพลังงานยกกระชับผิวเฉพาะจุดบริเวณรอบดวงตา หรือ Ultraformer IIIบทความแนะนำ Ultraformer IIIดูเด็กลงได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด Ultraformer III ยกกระชับหางตา Ultraformer III ช่วยอะไร ปกติเราจะพอคุ้นกันว่า Ultraformer III เป็นเครื่องมือที่ใช้ยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ให้ชั้นผิว โดยการปล่อยพลังงานความร้อนคลื่นความถี่เข้มข้นสูง (Micro & Macro Focused Ultrasound หรือ MMFU) ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS

มือใหม่ที่กำลังหาข้อมูลก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก คงจะเคยได้ยินคำรีวิว ข้อห้าม และความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับหัตถการนี้ที่พวกเราในโลกโซเชียลส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ บางอย่างอ่านแล้วก็ดูฟังขึ้น บางอย่างก็ ทำให้ต้องคิดต่อว่า ‘จริงหรือเนี่ย?’ บทความนี้หมอเองเลยรวบรวมไว้ 10 ประเด็นที่ทั้งถูกถกเถียงและถูก หยิบมาพูดบ่อยครั้ง รับรองถ้าอ่านจบแล้วไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนต่ออีกเลยค่ะ 1) ฉีดโบท็อก อันตราย หน้าเบี้ยว ยิ้มแข็ง ความเชื่อนี้ถือว่ายังไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด จริงอยู่ที่การออกฤทธิ์ของตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน นั้นมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง แต่หากเป็นการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า โอกาสเกิดผลข้างเคียงจากความไม่ชำนาญและการประเมินใช้ปริมาณยาที่ไม่เหมาะสม จนส่งผลให้ไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อหรือแสดงสีหน้าได้ตามปกติ นั้นแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยแน่นอนค่ะ 2) ฉีดโบท็อก ตัวเดียวจบ แก้ได้ครบทุกปัญหารูปหน้า แม้ว่าโบท็อกจะใช้ฉีดแก้ปัญหารูปหน้าได้ทั้ง ลดกรามหน้าเรียว ลดริ้วรอยหน้าเด็ก ลิฟกรอบหน้า และเก็บทรงจมูก แต่ก็ยังมีความกังวลอื่น ๆ อย่าง ไขมันสะสมแก้มเหนียง ผิวหย่อนคล้อย ร่องยุบ ร่องลึก หน้าไม่เท่ากัน หน้ากลม หน้าตอบซูบ ฯลฯ ที่ต้องใช้หัตถการตัวอื่นในการดูแลถึงจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

‘ทำไมหน้าโทรมจัง ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้ไปทำอะไรมา?’ เพราะสาเหตุของปัญหาหน้าโทรมนอกจากรูปแบบ การใช้ชีวิตและโรคประจำตัวแล้ว ก็ยังมีความเกี่ยวข้องไปถึงโครงสร้างรูปหน้าของเราเองด้วย บทความนี้ หมอขอยกตัวอย่าง 4 ปัญหารูปหน้ายอดฮิต ที่ทำให้หน้าโทรม หน้าแก่ ขาดความมีชีวิตชีวา พร้อมวิธีแก้ไข ที่สะดวกและเห็นผลชัด นั่นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ Neuramis ปรับรูปหน้าค่ะ มาดู 4 ปัญหาหน้าโทรม และวิธีแก้ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ปัญหาที่ 1 ใต้ตาดำ คล้ำ ลึก เหมือนคนอดนอน ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้ใต้ตาดำ คล้ำ ลึก เพราะว่ามีอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะทางพันธุกรรม หากใครมีโครงสร้างของกะโหลกศีรษะที่มีช่วงเบ้าตายุบกว่าปกติ ก็จะเป็นเหตุผลหลักที่คน ๆ นั้นมีเบ้าตาที่ลึก โหล แม้พยายามใช้เมคอัพปกปิดก็ยังทำได้ยาก โรคภูมิแพ้ กับการมีเลือดคั่งอยู่เยอะในหลอดเลือดดำใกล้ชั้นผิวหนังบริเวณใต้ตาที่มีความบอบบาง จนเห็นสีคล้ำ ๆ ของเส้นเลือดได้ชัด ยิ่งช่วงไหนที่โรคกำเริบ ใต้ตาก็จะยิ่งคล้ำมาก พฤติกรรมชอบขยี้ตา ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย

แสงแดด เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากจริง ๆ สำหรับการอาศัยอยู่ในเมืองไทย ซึ่งเป็นเมืองร้อนใกล้เขต เส้นศูนย์สูตร พวกเราคนไหนที่มีเหตุให้ต้องอยู่ท่ามกลางแดดจัดเป็นเวลานานตลอดวัน อย่างการออกทริป เที่ยวทะเล หรือเที่ยวต่างจังหวัด พอตกกลางคืน อาการระคายเคือง แสบร้อนผิว ผิวหน้าแดง ก็เริ่มถามหา กลายเป็นความทรมานจากหน้าไหม้แดดที่จะหลอกหลอนเราไปอีกหลายวัน ปัญหา หน้าไหม้แดด เกิดจาก หน้าไหม้แดด คือรูปแบบหนึ่งของผิวหนังอักเสบที่เกิดจากถูกรังสี UV จากแสงแดดทำลายผิวชั้นนอก โดยจะเริ่มมีอาการแดง แสบร้อน คัน เป็นมากเป็นน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน คนที่ผิวบาง แพ้ง่าย แน่นอนว่าระดับของอาการหน้าไหม้แดดก็จะหนักกว่าคนที่ผิวแข็งแรง ยังดีที่ร่างกายของเรามีกระบวนการปรับสภาพผิวหน้าไหม้แดดด้วยตัวเองอยู่แล้ว อาจใช้เวลาประมาณ เกือบสัปดาห์ หรือนานกว่า ในการฟื้นฟูอาการอักเสบและผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ถูกทำร้ายให้หลุดลอกออกไป แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพราะรังสี UV ส่งผลกระทบทำให้ชั้นผิวต้องผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากขึ้น เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันไม่ให้รังสี UV เข้ามาทำร้ายผิวมากไปกว่านี้ได้ในอนาคต ซึ่งนี่แหละคือที่มาของการมีผิวหน้า หมองคล้ำ หน้าไหม้แดด หน้าดำ ทำไงดี มาถึงคำถามว่า หน้าไหม้แดด

หน้าบาน ปัญหารูปหน้ายอดฮิตที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเข้าคลินิกความงาม เพื่อหาวิธีปรับรูปหน้าให้ เรียวลง เชื่อว่าพวกเราคงคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกปรับหน้าเรียวกัน แต่มีแค่โบท็อกอย่างเดียวเหรอที่แก้ ปัญหาหน้าบานได้ แล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์และลดความกังวลได้จริงไหม หมออยากให้ลองอ่าน บทความนี้กันก่อนตัดสินใจค่ะ ก่อนอื่น ลองสำรวจปัญหาหน้าบานของตัวเอง หน้าบานเพราะ เนื้อกรามใหญ่ ปัญหาหน้าบานมีสาเหตุมาจาก 3 ส่วนหลัก ๆ บนใบหน้า อย่างแรกคือ ขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกราม ที่ใหญ่เกินพอดี ส่งผลให้รูปหน้าดูขยายกว้างออกทางด้านข้าง ถ้าส่องกระจกมองตัวเองจากมุมหน้าตรง ก็ จะเห็นว่าใบหน้าช่วงใต้ใบหูทั้งสองข้างมีความบานออก แต่ถ้ามองจากมุมด้านข้าง บางครั้งจะสังเกตเห็น กล้ามเนื้อกรามที่ปูดออกมาชัด หรือให้ลองกัดฟันเป็นจังหวะ แล้วเอามือทาบข้างแก้ม ก็จะรู้สึกถึงกล้ามเนื้อ กรามที่ขยับเด้งขึ้นลงตามจังหวะกัดฟันด้วย กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ส่วนมากเป็นลักษณะที่ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่บางพฤติกรรมอย่างการเคี้ยว อาหาร การนอนกัดฟันเป็นประจำ ก็มีผลทำให้กล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานหนักมีความแข็งแรงขึ้นและมีขนาด ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม ในวงการแพทย์ความงามมีวิธีที่ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามที่มีประสิทธิภาพ เห็นผลชัด จนได้การยอมรับและนิยมฉีดกันจนแทบจะเป็นเรื่องปกติของทุกวันนี้ วิธีนั้นก็คือ การฉีดโบท็อก เนื้อกรามใหญ่ ควรแก้ยังไง ฉีดโบท็อกลดกราม (V-shape Jaw