Search
Search
ฟิลเลอร์ Neuramis 5,990.-/cc แอดไลน์เลย!

ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คืออะไร ?

ออฟฟิศซินโดรม หรือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial pain syndrome) คือ อาการปวดจากการใช้งานของกล้ามเนื้อมัดเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น การนั่งทำงานต่อเนื่องกับคอมพิวเตอร์ โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนท่าทาง หรืออริยาบท จนทำให้เกิดอาการปวดสะสมและกลายเป็นปวดเรื้อรังในที่สุด

อาการของ ออฟฟิศซินโดรม

  1. ปวดตึงบริเวณ คอ บ่า ไหล่ จากการนั่งท่าเดิมนาน ๆ
  2. มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อค ที่พัฒนามาจากอาการปวดเรื้อรัง จนเกิดการอักเสบ เส้นประสาทตึงตัว
  3. อาการปวดศีรษะ ไมเกรน ปวดร้าวถึงตา หรือปวดกระบอกตา เนื่องจากการใช้สายตามาก มีความเครียดสะสม
  4. อาการเหน็บชา และแขนขาอ่อนแรง เกิดจากการนั่งนานเกินไป จนการไหลเวียนเลือดผิดปกติ
  5. นอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท เกิดจากความเครียด หรือจากอาการปวดมารบกวนเวลานอน

โบออฟฟิศซินโดรมคืออะไร ?   

โบออฟฟิศซินโดรมเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโรค Office Syndrome โดยการนำ “โบทูลินัมท็อกซิน” หรือ “โบท็อกซ์” มาใช้เป็นตัวยาฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อบ่า (Trapezius) เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยจากภาวะออฟฟิศซินโดรม โดยโบออฟฟิศซินโดรม จะช่วยเรื่องลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นตัวการของการปวดเมื่อยเรื้อรัง ไม่เพียงแต่ลดอาการปวดเมื่อยในระยะสั้น แต่ยังช่วยคลายกล้ามเนื้อให้หายปวดในระยะยาวด้วย หากคนไข้ไม่ทำพฤติกรรมเดิมที่ก่อให้เกิดอาการปวดขึ้นอีก เช่น ทำงานหนักเกินไป หรือนั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน เป็นต้น

โบออฟฟิศซินโดรมช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

โบออฟฟิศซินโดรม ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการที่กล้ามเนื้อหดตึง เพราะออฟฟิศซินโดรมที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึง และร่างกายเครียด ตั้งแต่ช่วงบริเวณคอ บ่า ไหล่ นอกจากนั้น ยังช่วยให้คนที่มีบ่าและไหล่กว้างดูเหมือนนักกีฬา ให้ดูเรียวเล็กลง ทำให้ช่วงคอดูได้สัดส่วน คอเรียว และดูยาวขึ้น

โบออฟฟิศซินโดรมเหมาะกับใครบ้าง ?   

  1. คนทั่วไปที่มีปัญหาเรื่องอาการปวดเมื่อยธรรมดา (ในช่วงต้นคอ บ่า ไหล่) ไปจนถึงอยู่ในช่วงเกิดภาวะออฟฟิศซินโดรม ไม่สามารถแก้ไขด้วยวิธีเบื้องต้นอย่างกินยาหรือทายาแก้ปวดแล้ว และต้องการแก้ไขปัญหาที่สาเหตุอย่างจริงจัง
  2. คนที่เส้นประสาทถูกกดทับจากท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน หรือประสบอุบัติเหตุ
  3. คนที่มีปัญหาไม่มั่นใจรูปร่าง โดยเฉพาะในช่วงส่วนบน ตั้งแต่ลำคอ บ่า ไหล่ ที่มีขนาดใหญ่เกินไป 

ทั้งนี้ โบออฟฟิศซินโดรมไม่เหมาะกับคนที่แพ้สาร Botulinum Toxin สตรีกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น

โบออฟฟิศซินโดรมอยู่ได้นานแค่ไหน ?

โบออฟฟิศซินโดรม จะช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้รู้สึกผ่อนคลายได้ทันทีหลังฉีด และตัวยาจะสามารถคงประสิทธิภาพได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน และหลังจากผลลัพธ์ของตัวยาหายไป ก็สามารถฉีดเพิ่มเติมได้ โดยเว้นช่วงหลังจากฉีดครั้งแรกประมาณ 3-6 เดือน

ข้อดี ของการรักษาลดการเกร็งของกล้ามเนื้อด้วย โบออฟฟิศซินโดรม

  1. เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ใช่วิธีการผ่าตัด จึงไม่ต้องเสี่ยงกับการดมยาสลบ
  2. สามารถปรับปริมาณยาตามความรุนแรงของโรคได้
  3. ผลข้างเคียงอาจพบได้เพียงเล็กน้อยเช่น การอ่อนกำลังของกล้ามเนื้ออื่นๆ ซึ่งจะเป็นอยู่ชั่วคราวและหายไปได้เอง
  4. ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์
  5. เป็นวิธีการรักษาที่ไม่ยุ่งยาก และ สามารถทำได้ที่ห้องตรวจ ไม่ต้องทำในห้องผ่าตัด
  6. ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ

ข้อจำกัด ของการรักษาด้วย โบออฟฟิศซินโดรม

ผลดีจากการรักษามีระยะเวลาสั้น ประมาณ 3-4 เดือน จึงต้องมาติดตามรักษาอย่างต่อเนื่อง และอาจมีการอ่อนกำลังของกล้ามเนื้อได้

วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด โบออฟฟิศซินโดรม

  1. ช่วงหลังการฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อบ่า เช่น การยกเวท
  2. หลีกเลี่ยงการเข้าอบซาวน่า หรือใช้เลเซอร์ที่ใช้ความร้อน ในช่วง 2 สัปดาห์หลังการฉีด เนื่องจากความร้อนทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
  3. ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมระหว่างการทำงาน เช่น ปรับเปลี่ยนอิริยาบทท่านั่งขณะทำงาน หาท่านั่งที่นั่งได้สบาย ไม่เกร็ง หรือใช้ตัวช่วยอย่างเบาะรองนั่ง
  4. ไม่ควรจับ ลูบคลำ หรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของตัวยา
  5. ควรงดดื่มแอลกอฮอลล์ 3 – 5 วัน